แอฟริกาเป็นหนึ่งในทวีปที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง แต่ก็เป็นทวีปที่คนไทยมีความรู้และความเข้าใจน้อยมาก ทั้งที่พอจะรู้ว่าแอฟริกาเป็นทวีปที่รุ่มรวยด้วยทรัพยากรธรรมชาติและโอกาสมากมาย แต่หลายคนก็ยังลังเลและรีรอที่จะเข้าไปลงทุน หรือแสวงหาโอกาสลู่ทางทางการค้า
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ นำโดยอธิบดีเกริกพันธุ์ ฤกษ์จำนงค์ ได้ร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตแอฟริกาประจำประเทศไทย 7 ประเทศ ประกอบด้วย อียิปต์ เคนยา ลิเบีย โมร็อกโก ไนจีเรีย ซูดาน และแอฟริกาใต้ สายการบิน 4 สายการบินจากทวีปแอฟริกา ประกอบด้วย อียิปต์แอร์ เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เคนยาแอร์เวย์ และเซาท์แอฟริกันแอร์เวย์ บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) และบริษัทเซ็นทรัลพัฒนาจำกัด (มหาชน) จัดงาน The Colours of Africa: Opportunity, Friendship and Cooperation ขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับภูมิภาคแอฟริกาให้กับคนไทย ทั้งยังจัดเวทีให้ความรู้เกี่ยวกับการแสวงหาโอกาสด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวในแอฟริกา รวมถึงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเพื่อให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนชาวไทยกับชาวแอฟริกาอีกด้วย
อธิบดีเกริกพันธุ์กล่าวว่า แอฟริกาเป็นภูมิภาคขนาดใหญ่ มีประชากรกว่าหนึ่งพันสองร้อยล้านคน มีทรัพยากรมากเป็นอันดับต้นของโลก และมีสัดส่วนประชากรวัยทำงานสูงที่สุดในโลก หลายประเทศเริ่มพัฒนาไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเพื่อให้ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี ปัจจุบันนับว่าแอฟริกาเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญทั้งในทางการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ที่ผ่านมาการรับรู้ของสาธารณชนไทยต่อภูมิภาคแอฟริกายังคงมีอยู่อย่างจำกัด และยังคงยึดติดอยู่กับภาพลักษณ์ดั้งเดิมของแอฟริกา ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน
หลากหลายกิจกรรมถูกจัดขึ้นในงาน “สีสันแห่งแอฟริกา : โอกาส มิตรภาพ และความร่วมมือ” ตั้งแต่การสัมมานาเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในแอฟริกา ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลเชิงวิชาการที่กรมเอเชียใต้ฯ ได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ขณะที่วิทยากรก็มีทั้งเอกอัครราชทูตประเทศในภูมิภาคแอฟริกาประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากประเทศในแอฟริกา ผู้บริหารสายการบินแอฟริกา และผู้แทนภาคเอกชนไทยที่ลงทุนในแอฟริกา อาทิ กลุ่มโรงแรมไมเนอร์ ซึ่งเวทีการสัมมนาดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างดีและมีผู้เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมการตอบปัญหาเกี่ยวกับภูมิภาคแอฟริกาสำหรับเยาวชน โดยมีเยาวชนระดับประถมศึกษาตอนปลายและมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนในเครือข่ายมูลนิธิยุวทูตความดี 100 คน จาก 20 โรงเรียน ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ขณะที่ท่านเอกอัครราชทูตจากประเทศในแอฟริกาประจำประเทศไทย ได้มาร่วมถามคำถามในรอบตัดสิน ซึ่งโรงเรียนที่ชนะการตอบแข่งขันได้แก่โรงเรียนอนุบาลราชบุรี ตามมาด้วยโรงเรียนอนุบาลชลบุรี และโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุทธยา ขณะที่โรงเรียนอนุบาลวัดนางในและโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบคว้ารางวัลชมเชย
ขณะที่นายวีรศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานเปิดงาน “สีสันแห่งแอฟริกา : โอกาส มิตรภาพ และความร่วมมือ” ร่วมกับเอกอัครราชทูตแอฟริกาประจำประเทศไทย โดยมีผู้แทนคณะทูตานุทูต หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยในงานมีกิจกรรมหลากหลาย แต่ที่ดูจะเป็นสีสันและสร้างความฮือฮาได้สมกับชื่องานก็หนีไม่พ้นการเดินแฟชั่นโชว์โดยคณะทูตานุทูตและข้าราชการจากสถานเอกอัครราชทูตแอฟริกาประจำประเทศไทย ขณะที่ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ นางสุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ร่วมขึ้นเวทีเดินแบบและวาดลวดลายได้ไม่แพ้นางแบบอาชีพ เรียกเสียงปรมมือและชื่นชมจากผู้มาร่วมงานได้เป็นอย่างดี
อธิบดีเกริกพันธุ์กล่าวว่า การจัดงาน “สีสันแห่งแอฟริกา”เป็นกิจกรรมต่อยอดที่จะสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับแอฟริกาให้แก่สาธารณชนไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการสัมมนาเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับแอฟริกาเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างดีและได้รับความสนใจอย่างมาก โดยในปีนี้ กิจกรรมจะมีความหลากหลายมากกว่าปีที่ผ่านมาเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแอฟริกาในมิติต่าง ๆ อย่างรอบด้าน
หนึ่งในกิจกรรมสำคัญภายในงานคือ การจัดนิทรรศการโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงกับมิตรประเทศในแอฟริกา เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าแอฟริกาเป็นตัวอย่างหนึ่งของความสำเร็จในการใช้กลไกความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในการขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศของไทยในแอฟริกา โดยรัฐบาลไทยได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ไปเผยแพร่ให้แก่มิตรประเทศของไทยในแอฟริกา
นิทรรศการดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของแนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งประเทศในแอฟริกาหลายประเทศเช่น เลโซโท สวาซิแลนด์ และโมซัมบิก ได้นำหลักปรัชญานี้ไปปรับใช้อย่างสอดคล้องกับบริบทและความต้องการของแต่ละประเทศ ตลอดจนได้ให้การยกย่องและยอมรับว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการความสัมพันธ์ทางการทูตไทยกับประเทศในแอฟริกา และนิทรรศการภาพถ่ายในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเคนยา นิทรรศการแสดงผลงานศิลปแอฟริกา รวมทั้งนิทรรศการ “โมซัมบิกเขียนด้วยไม้” ซึ่งเป็นการแสดงผลงานของดีโน เจธา (Dino Jetha) ศิลปินนักแกะสลักไม้ “ซิเคเลเคดาน่า” ที่มีชื่อเสียงจากสาธารณรัฐโมซัมบิก เพื่อบอกเล่าเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ของผู้คนในโมซัมบิกและแอฟริกาผ่านผลงานไม้แกะสลัก โดยการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโต และคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตจากประเทศในภูมิภาคแอฟริกาประจำประเทศไทย 7 ประเทศ ได้แก่ อียิปต์ เคนยา ลิเบีย โมร็อกโก ไนจีเรีย แอฟริกาใต้ ซูดาน และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาประจำประเทศไทย ร่วมกับสายการบินอียิปต์แอร์ เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เคนยาแอร์เวย์ และเซาท์แอฟริกันแอร์เวย์ และกลุ่มโรงแรมไมเนอร์ ยังได้ร่วมกันออกบูธ Taste of Africa เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า อาหาร การค้า การลงทุน การบริการ และการท่องเที่ยวของแอฟริกา และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแอฟริกาไปพร้อมๆ กับการจัดแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรีของแอฟริกาอีกด้วย
อธิบดีเกริกพันธุ์กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ใช้คำว่า”สีสัน” เป็นการสื่อความหมายถึงภูมิภาคแอฟริกาที่มีความหลากหลาย เต็มไปด้วยสีสัน ทั้งในด้านความหลากหลายของเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และขนบธรรมเนียมประเพณี ด้วยต้องการให้สาธารณชนหันกลับมามองแอฟริกาในมุมมองใหม่ในฐานะที่แอฟริกาเป็นภูมิภาคแห่ง “โอกาส มิตรภาพ และความร่วมมือ”
