สาวยันตัดขาดสามีซ้อมทั้งที่ตั้งครรภ์ เผยโมโหร้าย ตร.ออกหมายเรียกรับข้อหา เบี้ยวเจอหมายจับ

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ Social Hunter เผยแพร่ข้อความพร้อมภาพถ่าย โดยระบุว่า “#ยังจำหลาน อาม่า ได้ไหม๊ มินิแดงเจ้าเดิม กับ ปอเช่สีขาว มาวันนี้มีวีรกรรมใหม่ ซ้อมผู้หญิง รอบนี้ถ้าพ้นคุก ถล่มปาขี้ตำรวจได้เลย !!!!! มีบ้างไหมความเป็นคน เป็นลูกผู้ชาย….เรื่องนี้เกิดขึ้นกับน้องสาวแท้ๆของผมเอง เนื่องจากน้องผมถูกผู้ชายทำร้ายร่างกาย ซึ่งก็คือแฟนของเธอเอง ซึ่งคือ นาย…..โดยที่เธอกำลังตั้งครรภ์ได้สองเดือนกว่าแล้ว ขอย้ำ ท้องอยู่ และคนที่ซ้อมคือพ่อของเด็กในท้อง และย้ำ ว่าเขาทำร้ายร่างกายทั้งที่รู้ว่าท้อง ในขณะที่น้องผมโทรหาผม แชทหาผม เล่าถึงสิ่งที่เธอกำลังเผชิญ และ ผมได้ยินกับหู ชัดเจน จนทนไม่ไหว รีบให้เธอออกมาจากอเวจีมหานรกขุมนั้น เพื่อพึ่งกระบวนการทางกฏหมาย ให้กฎหมายเอาผิด โดยเธอมีแผลฉีกเป็นรูลงไปที่ขมับใกล้คิ้วและตาด้านขวา หลังมีอาการปวด เดาะอย่างรุนแรง แขนและนิ้วชามีอาการปวดจากการฟกช้ำ แต่ทั้งนี้ ยังมีเรื่องดีอยู่ คือเด็กในครรภ์ปลอดภัย ทั้งนี้น้องผมยังบอกอีกว่า ฝ่ายชายได้ยืมเงินไป ราว 150,000 บาท ยังไม่ได้คืนพร้อมทั้งท้าทาย ว่าถ้าอยากได้คืนเร็วให้ไปฟ้องเอาเอง ทั้งนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นที่เสียหายอีกคือโทรศัพท์มือถือ และไอแพด รวมถึงฝ่ายชายเคยพยายามบังคับให้น้องสาวผมไปหาเงินเพื่อชำระค่าส่วนกลางหมู่บ้านด้วย จนตอนนี้ ผมได้พาน้องสาวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้นแล้ว และรอให้หมอบันทึกคดี ลงความเห็น เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อไป คืบหน้ายังไงผมจะอัพเดทอีกครับ
CR.Khun Shane Rajatabhaiboon”

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี เดินทางเข้าแจ้งความนายบี (นามสมมุติ) สามี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันและส่งตัวน.ส.ยศวดีไปตรวจร่างกายที่รพ.ภูมิพล

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30น. วันที่ 24 กรกฎาคม สน.สายไหม พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้เสียหายกำลังไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่ รพ.ภูมิพล เพื่อนำผลแพทย์มาประกอบสำนวน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมีแผลที่บริเวณขมับด้านขวา ที่เกิดจากการทะเลาะกันแล้วผลักไปชนกับขอบตู้ ส่วนเรื่องคดีตอนนี้ทางเจ้าหน้าแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวาน(23กรกฎาคม)ให้ฝ่ายสืบสวนไปตามตัวผู้ก่อเหตุคือนายบี ที่บ้านแต่ไม่พบโดยยามบอกว่าเดินออกจากบ้านไปแต่เช้า แต่ต่อมานายบีได้ติดต่อกลับมาทางเจ้าหน้าที่ว่าจะมามอบตัว แต่ขอเวลา1สัปดาห์ ทางเจ้าหน้าที่จะไม่รอเพราะวันนี้จะมีการสอบปาคำผู้เสียหายและออกหมายเรียก หากไม่มาพบจะออกหมายเรียกอีกครั้ง และออกหมายจับ จากการตรวจสอบนายบี เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อปี2557 ในพื้นที่สน.คลองตัน และมีเหตุรถชนในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว อย่างไรก็ตามในคดีนี้นั้นไม่สามารถยอมความได้เนื่องจากเป็นคดีอาญา ส่วนคดีนี้จะได้รับการประกันตัวหรือไม่ พนักงานสอบสวนต้องพิจารณาจากหลายส่วน ทั้งในเรื่องการการตัดสินคดีเก่า พฤติการณ์ไม่หลบหนีและมีหลักทรัพย์เพียงพอที่จะประกันตัว ทั้งนี้ขอชี้แจงที่มีภาพโซเชียลออกไปและวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไมไม่ให้ผู้เสียหายไปพบแพทย์ก่อนว่าระยะทางจากบ้านไปโรงพยาบาลนั้นใกล้กว่าบ้านมา สน. แต่ผู้ต้องหาเลือกที่จะมาแจ้งความก่อนที่จะไปโรงพยาบาลแล้วเวลาที่ดำเนินก็ประมาณ10นาที เป็นการทำใบเพื่อส่งตัวไปตรวจ ไม่ใช้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานล่าช้า

ด้านน.ส.เอ กล่าวว่า คบหากับนายบีมาได้สักพัก มาอยู่กินกันจริงจังที่บ้านนายบีได้ประมาณ7เดือน ทั้งนี้นายบี เป็นคนโมโหร้ายช่วงแรกเวลาทะเลาะกันจะไม่ลงไม้ลงมือ แต่มาช่วงหลังเริ่มมีการทำร้ายร่างกาย หลังจากเกิดเหตุนายบี พยายามติดต่อกลับมา แต่ตนไม่รับสาย และจะไม่กลับไปคบหาอีกแน่นอน ส่วนการตรวจร่างกายในวันนี้ แพทย์ยังไม่ได้ให้ใบรับรองมาต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับ น่าจะใช้เวลา7วัน เบื้องต้นอาการดีขึ้น ส่วนลูกในท้องปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ เพราะอายุครรภ์ยังน้อย แต่มีการนัดตรวจอีกครั้ง ทั้งนี้ยืนยันว่านายบี ลงมือทำร้ายร่างกายจริง ทั้งที่รู้ว่าตนท้องอยู่ ส่วนเรื่องคดีจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นอกจากข้อหาทำร้ายร่างกายแล้วยังจะพิจารณาในข้อหาอื่น รวมไปถึงเรื่องเงินที่นายบียืมไปด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image