เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการบริหารได้นำทัพนักมวยไทยชุดเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา “เวิล์ดเกมส์ 2017” ระหว่างวันที่ 27-30 กรกฎาคมนี้ ที่ประเทศโปแลนด์ เดินทางเข้าพบ “มาดามน้อง” นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่กระทรวงฯ ถนนราชดำเนิน เพื่อรับฟังโอวาทและให้กำลังใจก่อนทั้งหมดจะเดินทางไปล่าเหรียญรางวัลรายการดังกล่าวนี้
นางกอบกาญจน์เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำกีฬามวยไทยมาโดยตลอด ส่วนตัวเชื่อมั่นว่านักกีฬาทุกคนมีการเตรียมตัวฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี แถมทุกคนมีประสบการณ์ค่อนข้างสูง น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ เพื่อสร้างผลงานและชื่อเสียงให้กับประเทศชาติตามที่ทุกคนคาดหวังเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้นักกีฬาประมาทคู่ต่อสู้ แม้ว่า เราจะผ่านเวทีต่างๆ มาอย่างโชกโชนก็ตาม เนื่องจากทุกชาติต้องการเอาชนะนักมวยไทยให้ได้ ขอให้นักกีฬาทุกคนทำหน้าที่ให้ดีเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสร้างภาพลัษณ์ที่ดีของประเทศไทยกลับมา ทั้งเรื่องของวัฒนธรรมมารยาทที่ดีงามทั้งในและนอกสนาม
ยิ่งการแข่งขันรายการนี้เป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการต่อยอดและผลักดันมวยไทยเข้าไปบรรจุในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ต่อไปในอนาคต ดังนั้น อยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องพยายามรักษามาตรฐานและแสดงเอกลักษณ์ของมวยไทยให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นและจดจำด้วย เนื่องจากทางรัฐบาลเองโดยเฉพาะ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญและติดตามนักกีฬาไทยมาโดยตลอด ยิ่งกีฬาต่อสู้อย่างมวยไทย นั้นทาง พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการติดตามข่าวสารและเปิดโอกาสให้กับนักมวยไทยที่ประสบความสำเร็จเข้ามาพบที่ทำเนียบรัฐบาล ดังนั้น เชื่อว่าหากทุกคนทุ่มเทตั้งใจสร้างความสำเร็จที่ดีกลับมา ทางรัฐบาลเองก็จะคอยให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เหมือนกัน
ขณะที่ ดร.ศักดิ์ชายได้กล่าวว่า สำหรับการเดินทางไปแข่งขันครั้งนี้ นักกีฬาไทยอยู่ในระดับกลางๆ แม้จะผ่านรอบคัดเลือกมาแล้วก็ตาม แต่ทุกชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 35 ประเทศล้วนแต่เป็นยอดฝีมือของแต่ละชาติทั้งสิ้น ดังนั้น นักกีฬาทุกคนต้องมีความพร้อมและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เพื่อต้องการคว้าเหรียญรางวัลครั้งนี้กลับมาให้ได้ ที่ผ่านมานักกีฬาทั้งหมด 5 คน แยกเป็นชาย 4 คน และหญิง 1 คน ภายใต้การควบคุมดูแลการฟิตซ้อมของ อ.สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย มีการฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่องตลอด ซึ่งแต่ละคนก็มีโอกาสหยิบเหรียญรางวัลครั้งนี้กลับมาได้ แต่จะได้จำนวนกี่เหรียญ หรือสีอะไรนั้นก็ต้องไปกันบนเวทีอีกครั้งหนึ่ง เพราะเวลานี้นักมวยไทยต่างชาติมีการพัฒนาดีขึ้นจนน่ากลัว โดยเฉพาะ รัสเซีย, ตุรกี, เบลารุส และสวีเดน ที่นักกีฬาเราจะมองข้ามไม่ได้เป็นอันขาด นอกจากนี้ ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ ทาง “มาดามน้อง” นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะจะเดินทางไปเชียร์และให้กำลังใจนักมวยไทยที่ประเทศโปแลนด์ด้วย เพื่อต้องการสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีให้กับนักกีฬาทั้งหมด
ส่วน อ.สุรัตน์ เสียงหล่อ เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า นักกีฬาทั้งหมดฟิตซ้อมดูแลตัวเองมาเป็นอย่างดี อาจมีปัญหาบาดเจ็บบ้างมันเป็นเรื่องธรรมดาของกีฬาต่อสู้ แต่เวลานี้ทุกคนพร้อมเต็มที่แล้ว สำหรับการล่าเหรียญทองในครั้งนี้ ส่วนตัวหากไม่มีอะไรผิดพลาดเชื่อมั่นว่า 2 เหรียญทองจะต้องมีกลับมาได้ แต่จะเป็นรุ่นน้ำหนักไหนนั้นไม่อยากฟันธงในเวลานี้ คงต้องเห็นการประกบคู่สายในการแข่งขันอีกที รวมไปถึงข้อมูลของคู่แข่งแต่ละชาติด้วยว่า เราจะต้องเจอหนักมากน้อยแค่ไหน ส่วนตัวตั้งใจทำหน้าที่และจะนำความสำเร็จกลับมาสู่แฟนกีฬาชาวไทยทั้งชาติให้จงได้ เพราะนี่เป็นทัวร์นาเมนต์ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกรายการหนึ่ง เป็นรองแค่โอลิมปิกเกมส์เท่านั้นเอง
สำหรับทัพนักมวยไทยชุดนี้ ประกอบด้วย รุ่น 54 กก. ประนอม สังข์เงิน หรือมานะศักดิ์ ปิ่นสินชัย, รุ่น 57 กก. วิวัฒน์ คำทา หรือแสน ปิ่นสินชัย, รุ่น 67 กก. อนึ่ง คัฒมารศรี หรือดีเซลเล็ก แป๋งกองปราบ, รุ่น 71 กก. ศุภชัย หมื่นสังข์ หรือซุปเปอร์บอล บัญชาเมฆ และนักมวยหญิง รุ่น 51 กก. “น้องแป้ง” น.ส.อภัสรา โกศล เจ้าของเหรียญทองศึกมวยไทยชิงแชมป์โลก 2017 ที่ประเทศเบลารุส ภายใต้การดูแลของ พล.อ.ต.มังกร เสมารัตน์ ผู้จัดการทีมชาติไทย อ.สุรัตน์ เสียงหล่อ เป็นเฮดโค้ช และชูชาติ หลวงพล ผู้ช่วยฝึกสอน และ น.ส.พัทธนันท์ พงศาปาน ทำหน้าที่ผู้ตัดสิน
อนึ่ง นักกีฬาทั้งหมดและคณะกรรมการบริหาร จะเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันอังคารที่ 25 ก.ค.นี้ ด้วยเที่ยวบิน เอสยู 271 เวลา 10.00น. (นัดเจอที่เคาน์เตอร์ 7-8 เวลาประมาณ 07.00 น.) เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย เปลี่ยนเครื่องเป็นเที่ยวบิน เอสยู 2002 เพื่อบินสู่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ต่อไป
