นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการจัดจ้างโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน ว่า ขณะนี้คณะกรรมการโครงการฯ ได้ประชุมเพื่อตรวจสอบรายชื่อและคุณสมบัติผู้ยื่นซองเข้าประมูล พบว่า ผู้ที่เข้ามายื่นซองประกวดราคา ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา และผ่านคุณสมบัติทุกราย ประกอบด้วย 1.บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด 2.บริษัท.อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม จำกัด(มหาชน) 3.บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) 4.บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) 5.บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ 6.บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซว คอมมูนิเคชั่น จำกัด
ขั้นตอนต่อไป ในวันที่ 1 สิงหาคม สำนักงาน กสทช. จะจัดประกวดราคาแบบวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออคชั่น) ในสัญญาการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความความเร็วสูง (บรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต เซอร์วิส) และวันที่ 2 สิงหาคม จะอี-ออคชั่นในสัญญาการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โมบาย เซอร์วิส) หรือโดยอาศัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 หลังได้ผู้ชนะแล้ว จะนำผลสรุปเข้าสู่คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ที่มีพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
“กสทช. มีแผนเสนอให้นายกรัฐมนตรี อนุมัติให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายขอบสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ฟรีเบื้องต้น 3 เดือน เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้งานอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น จากนั้นจะศึกษาผลดีผลเสียว่าจะขยายต่ออีกเป็น 6 เดือนด้วย โดยใช้เงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (ยูโซ่) ที่มีจำนวน 17,000 ล้านบาท ”
ทั้งนี้ เบื้องต้น กสทช.ได้คำนวณดูแล้วว่าจะใช้งบประมาณอุดหนุน 360 ล้านบาทเท่านั้น โดยคำนวณจากจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 600,000 ครัวเรือน ใน 3,920 หมู่บ้าน หากคิดค่าบริการสูงสุดที่ 200 บาทต่อเดือนจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 120 ล้านบาทต่อเดือน และให้ใช้ฟรี 3 เดือน โดยกสทช.เห็นว่าหากเทียบกับผลประโยชน์ที่จะได้รับและการยกระดับสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างแท้จริง การวางโครงข่ายโครงการคาดสิ้นปี 2560 จะแล้วเสร็จ 15% และติดตั้งเสร็จครบทุกจุดเดือนกรกฎาคม 2561
