รมว.ศธ.ฉุนแบงก์ออมสินฉีกข้อตกลง หักบัญชีใช้หนี้ครูค้างจ่ายไปแล้ว 10,797 ล้านบ.

 

นายพิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ตามที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างสำนักงาน สกสค.และนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ขอให้ธนาคารออมสินคืนเงินที่หักจากเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ชำระหนี้แทนผู้กู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป คืนให้กับ สกสค.เนื่องจากฝ่ายกฎหมายของ สกสค.ได้ตรวจสอบบันทึกข้อตกลง หรือเอ็มโอยู ที่อดีตเลขาธิการ สกสค.ทำไว้กับธนาคารออมสิน กรณีให้ธนาคารออมสินหักเงินจากกองทุนสนับสนุนพิเศษฯ เพื่อชำระหนี้แทนผู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไปได้นั้น เป็นสัญญาฝ่ายเดียว ถือเป็นการทำนิติกรรมที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งในการเจรจามีข้อตกลงว่าจะยกเลิกการทำบันทึกข้อตกลงฉบับเดิม และทำข้อตกลงฉบับใหม่กับเลขาธิการ สกสค.คนปัจจุบัน นั้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินได้เข้าเจรจากับ พล.ท.โกศล ประชุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ ศธ.และยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างถูกต้อง ชอบธรรม พร้อมทั้งจะส่งเอกสารต่างๆ มาให้ สกสค.

“นอกจากนี้ ธนาคารออมสินยังไม่หยุดหักเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ เพื่อใช้หนี้แทนผู้ที่ค้างชำระ ตามที่สำนักงาน สกสค.เคยร้องขอ และยืนยันที่จะหักเงินต่อไป ทำให้ขณะนี้มียอดเงินที่ธนาคารออมสินหักไปแล้วรวมทั้งสิ้น 10,797 ล้านบาท เรื่องนี้ทราบว่า นพ.ธีระเกียรติ ไม่พอใจอย่างมาก เพราะหากธนาคารออมสินจะไม่ทำตามข้อตกลงที่ผู้อำนวยการธนาคารออมสินได้เจรจาไว้กับรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ควรมีเหตุผลที่อธิบายได้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ผมต้องรอฟังนโยบายจาก นพ.ธีระเกียรติก่อน หากตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ตัดสิน เพราะเป็นเรื่องระหว่างหน่วยงานของรัฐต่อหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ ผมยืนยันว่าการขอให้ธนาคารออมสินคืนเงินจำนวนนี้ ไม่ได้มีเจตนาทะเลาะกับใคร ทั้งนี้ เอ็มโอยูฉบับเดิมเป็นเรื่องที่ธนาคารออมสินตกลงไว้กับผู้บริหารสำนักงาน สกสค.ชุดเก่า ซึ่งไม่ถูกต้อง เอารัดเอาเปรียบครู ดังนั้น จึงอยากทำให้เกิดความเป็นธรรม และจะได้นำเงินจำนวนนี้มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตครูตามวัตถุประสงค์” นายพิษณุ กล่าว

นายพิษณุกล่าวอีกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนยังได้ไปไกล่เกลี่ยกับบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กรณีที่บริษัทล็อกซเล่ย์ฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีฝากขายหนังสือเรียนกับองค์การค้าของ สกสค.จำนวน 1,400 ล้านบาท ในสมัยนายสมมาตร์ มีศิลป์ เป็นผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ซึ่งได้ทำบันทึกว่าผลการไกล่เกลี่ยมีแนวทางที่จะตกลงกันได้ด้วยดี โดยทางศาลขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาวิเคราะห์ตัวเลข จำนวนสินค้าที่ขาย จำนวนสินค้าที่เหลือ พร้อมดอกเบี้ย และมาไกล่เกลี่ยกันอีกรอบในวันที่ 18 สิงหาคม ส่วนวิธีการชำระเงิน และจำนวนเงินที่องค์การค้าฯ ของ สกสค.ต้องชำระจะเป็นเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับการไกล่เกลี่ย แต่เท่าที่ดูน่าจะลดลงเหลือประมาณ 1,000 ล้านบาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image