“เดลี่ มิร์เรอร์” และ “เดอะ ซัน” 2 สื่อประเทศอังกฤษ รายงานว่า เชลซีที่เพิ่งซื้อนักเตะมีชื่อมาร่วมทัพช่วงปิดฤดูกาลนี้ไปแล้ว 131.7-143.7 ล้านปอนด์ (5,794-6,322 ล้านบาท / อัตรา 1 ปอนด์ 44 บาท) กำลังจะทุ่มเงินอีก 150 ล้านปอนด์ (6,600 ล้านบาท) ซื้ออีก 4 นักเตะซึ่งจะทำลายสถิติซื้อนักเตะสูงสุดโลกต่อ 1 ตลาดซื้อขายที่รีล มาดริด เคยทำไว้ในฤดูกาล 2009-10 ที่ 219.8 ล้านปอนด์ (9,671 ล้านบาท) อย่างขาดลอย
โดยทีม “สิงห์บลู” ใช้เงินซื้ออัลบาโร่ โมราต้า ศูนย์หน้ารีล มาดริด 58 ล้านปอนด์ (2,552 ล้านบาท) พร้อมสัญญาพิเศษตามผลงานอีก 12 ล้านปอนด์ (528 ล้านบาท), ทีมุย บากาโยโก้ กองกลางตัวรับอาแอส โมนาโก 39.7 ล้านปอนด์ (1,746 ล้านบาท) และอันโตนิโอ รูดิเกอร์ กองหลังอาแอส โรม่า 34 ล้านปอนด์ (1,496 ล้านบาท)
น้อยกว่าการซื้อขายนักเตะฤดูกาล 2009-10 ที่เดอะ ซัน อ้างว่าทีม “ราชันชุดขาว” เคยหมดเงินเป็นสถิติโลก 219.8 ล้านปอนด์ ซึ่ง 2 ในนั้นเป็นการซื้อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพงสุดโลกเวลานั้น 80 ล้านปอนด์ (3,520 ล้านบาท) และริคาร์โด้ กาก้า กองกลางตัวรุกเอซี มิลาน 56 ล้านปอนด์ (2,464 ล้านบาท) ถึง 88.1 ล้านปอนด์ (3,876 ล้านบาท) และไม่ใกล้เคียงกับที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อนักเตะเตรียมความพร้อมฤดูกาลหน้า 2017-18 ไปแล้ว 216.15 ล้านปอนด์ (9,510 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม อันโตนิโอ คอนเต้ ที่เพิ่งคุมเชลซีปีแรกก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลที่ผ่านมาได้ทันที และดับข่าวลือมีปัญหาเรื่องการซื้อนักเตะกับบอร์ดบริหารสโมสรด้วยการต่อสัญญากับทีมออกไปอีก 2 ปี ต้องการนักเตะอีก 4 คนตั้งแต่อเล็กซ์ ซานโดร แบ๊กซ้ายยูเวนตุส, เวอร์กิล ฟาน ไดก์ กองหลังเซาแธมป์ตัน, อันโตนิโอ คันเดรว่า ปีกอินเตอร์ มิลาน และเฟร์นานโด ญอเรนเต้ ศูนย์สวอนซี ซิตี้ ที่คอนเต้เคยร่วมงานกันสมัยอยู่ยูเวนตุสในราคารวมกันถึง 150 ล้านปอนด์ (6,600 ล้านบาท)
ทำให้ทีมสิงห์บลูจะใช้เงินถึง 281.7 ล้านปอนด์ (12,394 ล้านบาท) สูงสุดโลกต่อ 1 ตลาดซื้อขายทันที
คอนเต้ยืนยันว่า หากไม่นับผู้รักษาประตู เชลซีมีนักเตะตัวจริงในขณะนี้เพียง 16 คนเท่านั้น และต้องแข่งกับทีมที่กำลังแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกอีก 4 ทีม แน่นอนว่าเชลซีต้องการนักเตะมากกว่านี้
