เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการลงพื้นที่พักสำนักสงฆ์ถ้ำเขาหินปูน หมู่ที่ 7 ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ได้พบกับ พระพนวัชร์ ปภัสโร อายุ 37 ปี วัดหนองโนใต้ อ.เมือง จ.สระบุรี ที่พักอยู่ที่สำนักสงฆ์ถ้ำเขาหินปูน
พระพนวัชร์ เปิดเผยว่า ได้ศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับนิราศของสุนทรภู่ เกี่ยวกับวัดเจ้าฟ้าอากาศนาถนรินทร์มานาน กว่า 6 ปี จนปี 2556 ได้มีโอกาสขึ้นไปบนยอดเขาหินปูนที่พักสงฆ์ดังกล่าว ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านที่ขึ้นเขาไปหาเก็บหน่อไม้ พบซากโบราณสถาน ซากสิ่งต่างๆ หินกระเบื้องกราบกล้วย อิฐมอญ และมีก้อนหินขาว ลักษณะตรงกับ นิราศของสุนทรภู่ ตอนหนึ่งที่ ว่า ก้อนหินดังสำลี ที่เขียนในนิราศ ซึ่งสุนทรภู่น่าจะแต่งนิราศวัดเจ้าฟ้าในช่วงรัชกาลที่ 3 ราวพุทธศักราช 2375
พระพนวัชร์ กล่าวต่อว่าจากเส้นทางการเดินทางและลักษณะต่างๆ บริเวณดังกล่าวน่าจะคือ วัดเจ้าฟ้าอากาศนากนรินทร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ สุจิตต์ วงษ์เทศ ได้คว้าหา บนยอดเขาพบซากโบราณ กระเบื้องโบราณ อิฐมอญ ยังได้นำซากพระพุทธรูปเป็นหินทราย ที่มี 3 ท่อน มาประกอบกัน เป็นองค์พระพุทธรูปหินทราย หน้าตัก 70 เซนติเมตร สูง 90 เซนติเมตร หูยานเหมือนสมัยอู่ทอง ศีรษะหนามขนุน ลักษณะวัตถุ สถานที่ คล้ายตรงตามนิราศสุนทรภู่ ก้อนหินขาวดังสำลี บนยอดเขายังปรากฏอยู่ตามนิราศสุนทรภู่ ถ้าหลายหน่วยงานช่วยกันค้นคว้า สืบหาหลักฐานบนยอดเขา อาจจะได้พบความจริงของ ที่ตั้งวัดเจ้าฟ้าอากาศนาถนรินทร์
“ตอนนี้ไม่สามารถขึ้นไปบนยอดเขาได้ เนื่องจาก มีฝนตก ป่าปกคลุมทางขึ้นเขา มีแต่ หมาหมุ่ย ถ้าจะขึ้นเขาเพื่อพิสูจน์ ค้นคว้า คงต้องหน้าแล้ง ก็อยากให้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันค้นคว้า มาช่วยกันพิสูจน์ ว่า ตามลักษณะดังกล่าวจะเป็นวัดเจ้าฟ้าอากาศนาถนรินทร์ หรือไม เพราะจะว่าอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็ไม่ใช่ ที่ จ.อุทัยธานี ก็ไม่ใช่ ยังค้นคว้าติดตามหา น่าจะ ที่ เขาที่ สงฆ์ถ้ำเขาหินปูน หมู่ที่ 7 ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ต้องรอพิสูจน์”พระพนวัชร์กล่าว
