นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้รายงานสรุปเหตุการณ์ภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินในเส้นทางสายหลัก ซึ่งจากการเกิดอุทกภัยในหลายจังหวัด ประจำวันที่ 29 กรกฎาคม 2560 โดยทางหลวงมีสภาวะน้ำท่วมพื้นที่ทั้งสิ้น 15 จังหวัด จำนวน 39 สายทาง มีสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ 47 แห่ง การจราจรสามารถผ่านได้ 36 แห่ง ผ่านไม่ได้ 11 แห่ง ดังนี้ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 4 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 12 สี่แยกสมเด็จ – คำพอก ในพื้นที่ อ.ห้วยผึ้ง ช่วงกม.ที่696 – 698 สะพานชำรุด ระดับน้ำสูง 30 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
ทางหลวงหมายเลข 2116 ร่องคำ – โพนทอง ในพื้นที่ อ.ร่องคำ ช่วงกม.ที่ 46 – 47 สะพานชำรุดเสียหาย ใช้ทางเลี่ยงเข้าสามแยก อ.โพธิ์ชัย (ทล.2327) แทน
ทางหวงหมายเลข 2336 หนองผ้าอ้อม – กุฉินารายณ์ ในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ ช่วงกม.ที่ 34 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
ทางหลวงหมายเลข 2336 หนองผ้าอ้อม – กุฉินารายณ์ ในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ ช่วงกม.ที่ 36 ระดับน้ำสูง 70 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
ส่วนจังหวัดสกลนคร จำนวน 2 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 223 สกลนคร – นาแก ในพื้นที่ อ.โคกศรีสุพรรณ ช่วงกม.ที่17 สะพานชำรุด ทางเลี่ยงจาก จ.สกลนคร ไป อ.นาแก จ.นครพนม ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 2358 สายโนนหอม – เต่างอย ไปตามเส้นทางเข้า อ.โคกศรีสุพรรณ – นาแก (ทล.223)
ทางหลวงหมายเลข 2347 ธาตุนาเวง – สกลนคร ในพื้นที่ อ.เมืองสกลนคร ช่วงกม.ที่ 4 – 5 ระดับน้ำขาเข้าสูง 80 ซม. ระดับน้ำขาออกสูง 80 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
ขณะที่จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 208 หนองสระพัง – มหาสารคาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 17 คอสะพานขาดปิดการจราจร ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 3 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2287 ดงหลวง – สานแว้ ในพื้นที่ อ.ดงหลวง ช่วงกม.ที่ 18 ระดับน้ำขาเข้าสูง 180 ซม. ระดับน้ำขาออก 180 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
ทางหลวงหมายเลข 2287 ดงหลวง – สานแว้ ในพื้นที่ อ.ดงหลวง ช่วงกม.ที่ 20 – 21 ระดับน้ำขาเข้าสูง 180 ซม. ระดับน้ำขาออก 180 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
ทางหลวงหมายเลข 2287 ดงหลวง – สานแว้ ในพื้นที่ อ.ดงหลวง ช่วงกม.ที่ 22 ระดับน้ำขาเข้าสูง 180 ซม. ระดับน้ำขาออก 180 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 1 แห่ง ทางหลวงหมายเลข 2116 โพนทอง – ห้วยคล้อ ในพื้นที่ อ.โพนทอง ช่วงกม.ที่ 75 สะพานชำรุดไม่มีเส้นทางเลี่ยง
ทั้งนี้ยังคงเกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกรมทางหลวงประกอบด้วยสำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงในพื้นที่ เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของผู้ใช้ทาง
หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
