มทภ.2 บินด่วน สั่งช่วยชาวสกลนคร-ผู้ว่าฯพบปัญหาเครื่องสูบน้ำทน.สกล ชำรุด ต้องระดมเข้ามาเพิ่ม

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พลโทวิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางไปยังกองอำนวยการแก้ปัญหาอุทกภัย อาคารศาลากลาง ชั้น 3 จังหวัดสกลนคร เพื่อติดตามปัญหาน้ำท่วมเมืองสกลนคร หลังจากมวลน้ำก้อนใหญ่จากเทือกเขาภูพานรวมทั้งลำน้ำสาขา ก่อตัวรวมกันกว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร เอ่อเข้าท่วมตัวเมืองสกลนคร ระยะทางประมาณกว่า 10 กิโลเมตร จึงทำให้เหลือเวลาประกาศเตือนภัยและอพยพสายเกินไป ที่สำคัญปัจจัยหลักจากอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ต.พังขว้าง ซึ่งเป็นเขื่อนดินยาว 1,300 เมตร สูง 8.3 เมตร ความจุ 2.4 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำที่ไหลลงมาอย่างแรงได้กัดเซาะคันดินกั้นน้ำเสียหายยาว 20 เมตร ลึก 4 เมตร มวลน้ำจำนวนมากจึงไหลทะลักเข้าพื้นที่ราบส่งแรงบวกกับน้ำที่มีอยู่ยกระดับความสูงท่วมที่อยู่อาศัยในเขตตัวเมืองสกลนครอย่างรวดเร็วจนตั้งหลักไม่ทัน รถกว่า 300 คันจมมิด มีผู้ประสบภัย 24,000 คน

นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผวจ.สกลนคร รายงานสถานการณ์ว่า วันที่ 23 ก.ค. มีฝนตกหนักในเขตอำเภอเมืองสกลนครวัดได้ 103 มม.ซึ่งมากกว่าทุกจังหวัดในภาคอีสาน โดย ปภ.มีการแจ้งเตือนภาวะฝนตกหนักในช่วง 25-27 ก.ค. ให้จัดตั้งวอร์รูมประชุมส่วนราชการเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่จะเกิดขึ้น โดยออกประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ทะเลสาบหนองหาร สำรวจเครื่องมือวัสดุ อุปกรณ์ เพื่อการพร่องน้ำ จัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ปัญหาที่พบคือ เครื่องสูบน้ำของเทศบาลนครสกลนครชำรุด 2 ใน 3 เครื่องจากการใช้มายาวนานถึง 14 ปี จึงต้องนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพิ่มเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ และพร่องน้ำหนองหารระบายลงสู่น้ำก่ำก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่ จ.นครพนม อิทธิพลพายุเซินกาตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่คืนวันที่ 27 ก.ค.ส่งผลให้ปริมาณน้ำสะสมอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก วัดได้ถึง 300 มม.มากที่สุดภายใน 24 ชม.จึงทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลัน และอ่างห้วยทรายยังถูกกัดเซาะขาด ส่งผลให้น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็วจนเอ่อทะลักท่วมตัวเมืองสกลนคร

ผวจ.สกลนคร กล่าวอีกว่า นอกจากปริมาณฝนที่มากถึง 300 มม.ในคืนเดียวปัจจัยอีกหลายทางส่งผลให้น้ำท่วมคือ น้ำโขงที่หนุนลำน้ำก่ำขึ้น มาจึงส่งผลให้ระดับน้ำหนองหาร มีปริมาณกักเก็บเกินความจุที่ 266 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นเหตุให้น้ำที่ไหลลงมาอย่างรวดเร็วไม่มีที่ระบาย เพราะหนองหารมีน้ำสาขาถึง 21 สาขา แต่มีที่ระบายอยู่ช่องทางเดียวคือลำน้ำก่ำ สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดระดับลงวันละ 50-60 เซนติเมตร แต่ทั้งนี้ยังไม่วางใจ ยังเร่งช่วยเหลือย่างต่อเนื่องทั้งการส่งมอบอาหารและน้ำ และนำมาพักพิงอยู่ที่สูง เพื่อพบแพทย์สนาม ส่วนโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ขณะนี้สามารถให้บริการได้ปกติ แต่ต้องเป็นรถยกสูงสามารถเดินทางตั้งแต่ประตูเมืองไปจนถึงโรงพยาบาลได้

Advertisement

จัดระดมเรือท้องแบบ 50 ลำ ระยนต์บรรทุกและขนย้าย 43 คัน รถกู้ภัยและรถอื่นๆ 17 คัน เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ รถครัวสนาม 3 คัน จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว 5 แห่ง คือ ศูนย์พักพิงโรงยิม อบจ. ศูนย์พักพิงโรงเรียนอนุบาลสกลนคร ศูนย์พักเด็กและครอบครัว ศูนย์พักพิงวัดพระธาตุเชิงชุม และศูนย์พักพิงตำรวจภูธรจังหวัด วันแรกมีคนมาเข้าพัก 927 ราย และมีรายงานจำนวนประชาชนประสบภัยเข้ามาในวันแรก 6,855 ครัวเรือน รวม 25,799 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 23,331 ไร่ สิ่งสาธารณประโยชน์เสียหายแล้ว 3 แห่ง คาดว่าสถานการณ์น้ำในเขตเทศบาลนครสกลนคร จะเริ่มคลี่คลายลงใน 1-2 วันนี้

พลโทวิชัยกล่าวว่า ขอให้ทำงานด้วยความมุ่งมั่น เสียสละ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ฯทุกฝ่าย ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย ขอให้ระมัดระวังภัยอันตราย ติดตามข่าว ทางกองทัพภาคที่ 2 พร้อมสั่งการให้กำลังทหารบูรณาการกับหน่วยงานอื่นอย่างเต็มกำลัง ต้องวางแผนพร่องน้ำแบบบูรณาการ คุมระบายน้ำของเขื่อนน้ำพุง ผลักดันน้ำออกจากจากทะเลสาบหนองหาร ผ่านประตูน้ำสุรัสวดีและสปิลเวย์ โดยใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 20-30 เครื่อง ส่วยการแก้ปัญหาจะต้องขุดลำน้ำก่ำและซ่อมเสริมพนังลำน้ำก่ำ สร้างสถานีสูบน้ำเพื่อในการเพาะปลูกในฤดูแล้ง เวนคืนที่ดินและขุดช่องลัดเพื่อเพิ่มอัตราการไหลของลำน้ำก่ำ เป็นการแก้ปัญหาระยะยาว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image