นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการคุรุสภา และคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) มีมติให้ยกเลิกกระบวนการสรรหาเลขาธิการสกสค.และเลขาธิการคุรุสภา และให้ดำเนินการสรรหาใหม่ เนื่องจากมีข้อร้องเรียนมากและกระบวนการสรรหาอาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยการสรรหาใหม่จะยึดตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 17/2560 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 17/2558 ที่ระบุว่ากรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการศธ. อาจให้คณะกรรมการคุรุสภาและคณะกรรมการสกสค. ดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่รัฐมนตรีว่าการศธ. กำหนด โดยเมื่อเร็วๆ นี้ศธ.ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอให้ตีความคำสั่งคสช.ที่ 17/2560 และจะได้สรรหาทั้งเลขาธิการสกสค. เลขาธิการคุรุสภาและผู้อำนวยการองค์การค้าของสกสค. (อค.)พร้อมกัน ว่า ตนกำลังรอการตีความจากคณะกรรมการกฤษฎีกา แม้ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ค่อนข้างชัดเจนว่ารัฐมนตรีว่าการศธ. สามารถทำอะไรก็ได้ จะสรรหาเมื่อไร อย่างไรก็ได้ แต่ที่ต้องการให้คณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยตีความอีกครั้ง เพื่อต้องการความมั่นใจ ไม่ให้เกิดข้อร้องเรียนและต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ ไม่ดี ซึ่งล่าสุดทราบว่า ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียกนักกฎหมายของศธ. ไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว และเห็นว่ากำลังจะตอบมา ซึ่งถ้าคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบกลับมาเมื่อไร ตนพร้อมจะดำเนินการทันที
“ถ้ากฤษฎีกาตีความมาว่ารัฐมนตรีว่าการศธ.มีอำนาจสามารถทำได้ ผมจะให้คนนอกมาเป็นคณะกรรมการสรรหาทั้ง 3 ตำแหน่ง และต้องเป็นคณะกรรมการสรรหาคนละชุด เพราะเห็นแล้วว่าให้คนในศธ. สรรหาแล้วเป็นอย่างไร สำหรับคุณสมบัติของทั้ง 3 ตำแหน่ง อย่างเช่น เลขาธิการสกสค. เราต้องการคนที่รู้ว่าการบริหารจัดการกองทุนเป็นอย่างไร ผู้อำนวยการองค์การค้า ต้องการคนที่รู้เรื่องการค้าจริงๆ เป็นที่เคารพ ขณะที่เลขาธิการคุรุสภา ต้องการคนที่เป็นที่เคารพนับถือของครู ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการในศธ. แต่ต้องเป็นคนที่รู้เรื่องอาชีพครูจริง ๆ โดยทั้ง 3 ตำแหน่งจะเปิดกว้างให้คนนอกเข้ามาสมัครได้ และต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต เพราะทั้ง 3 องค์กรมีข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใสอยู่เรื่อย ๆ ส่วนหลักเกณฑ์การสรรหาจะเป็นอย่างไรนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ขอรอความชัดเจนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน ผมอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีข้อครหาว่ามีการล็อกสเป็กเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่จะสรรหาก่อนที่ผมจะลงจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการศธ. แน่นอน ไม่ต้องห่วง”นพ.ธีระเกียรติกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องเร่งสรรหาให้ทันก่อนสิ้นเดือนตุลาคมหรือไม่ เพราะนายพิษณุ ตุลสุข รองปลัดศธ. ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ตุลาคมนี้ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามธรรมชาติ เราไม่ควรจะเร่งสรรหาเพราะใครจะเกษียณ เพราะหากทำเช่นนั้นก็เท่ากับไปบล็อกนายพิษณุเอาไว้ หากนายพิษณุเกษียณแล้วยังสรรหาเลขาธิการสกสค. คนใหม่ไม่ทัน คำสั่งคสช.ก็ชัดเจนว่า ให้ตั้งรองปลัดศธ. มาปฏิบัติหน้าที่แทน แต่หากเปิดสรรหาหลังนายพิษณุเกษียณ ก็มีสิทธิมาสมัคร ทุกอย่างต้องมีความยุติธรรม