“อิมเมจ”ขอโทษอารมณ์ชั่ววูบ แจงเหตุทวิตเดือด เพราะรอรถเมล์นาน ยัน ไม่ได้แอนตี้รัฐบาล

จากกรณีที่กำลังร้อนแรง เมื่ออิมเมจ The Voice ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับสังคม ใจความว่า “ประเทศเฮงซวย จะอีก 50 ปีหรืออีก 1,000 ปี ก็ไม่เจริญขึ้นหรอก” รวมถึง “ยอมที่จะทำงานหนัก จ่ายภาษีที่แพงกว่านี้ หากได้รับสวัสดิการในชีวิตที่ดีกว่า” นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า “เหนื่อยใจ ไม่อยากเรียกที่นี่ว่าบ้าน” เป็นต้น ก่อนจะมีการลบข้อความดังกล่าวออกไปเป็นที่เรียบร้อยนั้น

ก่อนที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต บางส่วน จะออกมาสนับสนุนและวิจารณ์ นั้น แหล่งข่าวคนสนิทกับอิมเมจ The Voice เปิดเผยกับมติชน ถึงกรณีดังกล่าว มีรายละเอียดการสนทนา ดังนี้

ผู้สื่อข่าว-น้องโพสต์จริงไหม

น้องโพสต์จริงค่ะ เรามีการพูดคุยกับน้องแล้ว เบื้องต้น คือน้องเป็นคนโพสต์เองจริงๆ มันเกิดจากที่เมื่อวานน้องจะกลับบ้าน ก่อนหน้านี้พ่อกับแม่เขาก็มารับส่งปกติ แต่ว่าวันเมื่อวานนี้น้องเขาตัดสินใจอยากกลับบ้านเองค่ะ แล้วก็มารอรถเมล์ แล้วทีนี้รถที่น้องรออาจจะมาช้า อาจจะมีปัญหา เลยทำให้น้องเขาโพสต์แบบนั้นไป อันนี้เราถามน้องแล้วน้องก็ยืนยันว่าที่น้องโพสต์สาเหตุมาจากเรื่องนั้นจริงๆ เท่านั้นเอง น้องไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะเป็นเรื่องใหญ่โต จริงๆก็เริ่มเป็นประเด็นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว แล้วน้องเขาก็ลบไปแล้ว เขาลบเพราะเขารู้สึกว่ามันเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ แล้วอารมณ์ชั่ววูบนั้นมันหายไป น้องเขาก็ลบ

Advertisement

ผู้สื่อข่าว-คนมองน้องหัวรุนแรง เพราะแค่รอรถเมล์ช้า ไม่น่าโพสต์ได้ขนาดนี้

อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ แต่ว่าน้องยืนยันมาแล้วว่าต้นเหตุจากการโพสต์ทวิตเตอร์มาจากเรื่องรถเมล์จริงๆ

ผู้สื่อข่าว-คนมองน้องแอนตี้รัฐบาลหรือแอนตี้สังคมไปเลย

Advertisement

ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ ไม่เลย คืออารมณ์ชั่ววูบจริงๆ แต่ว่าพอเกิดเรื่องนี้ทางเราก็เตือนน้องหนักมาก ว่าเราเป็นคนสาธารณะเราควรจะระวังตัว เราควรจะคิดก่อนโพสต์ แต่ว่าจริงๆที่บ้านเราไม่เคยคุยเรื่องรัฐบาลกันเลย นะคะ รวมถึงตัวน้องก็ไม่ได้มีท่าที่ว่าจะเป็นแบบนั้นเลย

 

ผู้สื่อข่าว-ตอนที่น้องโพสต์แล้วลบแสดงว่าคิดไว้แล้วว่ามันต้องเป็นประเด็น

อันนี้ไม่รู้จริงๆ น้องเขาแค่บอกว่า พอน้องเขาเหมือน ที่โพสต์เพราะอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ แล้วพอความชั่ววูบมันหายไป น้องเขาก็ลบ แต่เราไม่นึกว่ามันจะกระแสแบบนี้

ผู้สื่อข่าว-น้องเห็นคำวิจารณ์เป็นไงบ้าง

น้องร้องไห้เลยเหมือนกัน เขาก็เฟล ก็นอย ร้องไห้เลย ตอนนี้น้องไม่อยากเล่นทวิตเตอร์ไปเลย แล้วเราก็เลยบอกว่า นี่เราควรจะระมัดระวังในการโพสต์ คือน้องเขาไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจเขา เพราะว่าน้องเขาก็เล่นทวิต ปกติอยู่แล้ว เขาไม่คิดว่าจะมีให้ความสนใจในสิ่งที่เขาโพสต์ แต่ว่าพอเป็นแบบนี้ เราก็สอนน้องไปว่า น้องเป็นคนสาธารณะน้องต้องระวังมากๆ จริงๆน้องอยากมาขอโทษเองนะคะ แต่ว่าน้องติดกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัย แต่ว่าน้องรู้สึกผิดจริงๆ น้องอยากขอโทษเรื่องนี้ด้วยตัวเองจริงๆ แต่ว่ายังไม่สะดวกเลยให้เราโทรมาก่อน ยังไงฝากด้วยนะคะ น้องขอโทษจริงๆค่ะ

ผู้สื่อข่าว-จะระวังในการใช้โซเชี่ยล

ระวังมากค่ะ ต้องระวังมาก เพราะว่าเรื่องนี้นับเป็นบทเรียนของน้องเลย น้องรู้สึกผิด และขอโทษจริงๆค่ะ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image