การค้นหาเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ซึ่งหายสาบสูญไปโดยไร้ร่องรอยพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือทั้งลำเมื่อปี 2014 ไม่ได้เป็นความพยายามที่สูญเปล่าอย่างที่หลายคนคิด อย่างน้อยที่สุด การสำรวจดังกล่าวก็ทำให้ได้ข้อมูลสภาพพื้นผิวใต้ท้องทะเลของมหาสมุทรอินเดียอย่างละเอียดชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งส่งผลให้สามารถกำหนดร่องน้ำเดินเรือที่ปลอดภัยกว่าเดิมได้ นอกเหนือจากการใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการสำรวจพื้นผิวใต้ทะเลเพื่อการศึกษาวิจัยในอนาคตอีกด้วย
แม้ว่าจนถึงเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลายุติการค้นหาอย่างเป็นทางการ จะยังไม่พบข้อมูลหรือหลักฐานที่หนักแน่นซึ่งแสดงถึงจุดตกหรือจุดที่ตั้งของซากเครื่องบินลำนี้เลยก็ตามที
การค้นหาซากเครื่องเอ็มเอช 370 ในพื้นที่ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดตกนั้น จำเป็นต้องอาศัยการสำรวจพื้นภูมิใต้ทะเลใหม่ เนื่องจากแผนที่เดิมที่มีอยู่ไม่ละเอียดมากพอที่จะเดินเรือในน่านน้ำบริเวณที่ต้องค้นหาโดยปลอดภัยได้ การค้นหาจึงเริ่มด้วยการใช้เรือวิจัยสำรวจพื้นผิวทั้งหมดโดยละเอียดอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน จนถึงตอนยุติการค้นหานั้น เรือวิจัยสามารถจัดทำแผนที่ภูมิลักษณะใต้ทะเลได้รวมทั้งสิ้น 278,000 ตารางกิโลเมตรในพื้นที่ซึ่งต้องค้นหาซากเครื่อง แต่หากรวมการสำรวจพื้นผิวตั้งแต่ออกจากท่าเรือของออสเตรเลียแล้ว พื้นที่ซึ่งได้รับการสำรวจภูมิลักษณะใหม่โดยละเอียดจะเพิ่มขึ้นเป็น 710,000 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว
ข้อมูลแผนที่ของภูมิลักษณะพื้นผิวใต้ทะเลอันเป็นผลจากการสำรวจดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของโครงสร้างต่างๆ ใต้ทะเล อาทิ พื้นภูมิที่แสดงให้เห็นถึงแผ่นดินถล่มใต้น้ำ, ที่ตั้งภูเขาไฟใต้น้ำ เช่นเดียวกับพื้นที่ซึ่งมีลักษณะเฉพาะในบางจุด เช่นบริเวณที่เรียกกันว่า โบรคเคนริดจ์ ซึ่งนักวิทยา ศาสตร์ประเมินว่าเป็นพื้นที่เปลือกโลกใต้น้ำเก่าแก่ มีอายุมากถึง 40 ล้านปีเป็นต้น
ภาพภูมิลักษณ์ใต้ทะเลที่เป็นผลจากการสำรวจใหม่นี้มีความละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม โดยมีความคมชัดมากกว่าที่เคยมีอย่างน้อย 15 เท่าตัว
ข้อมูลเหล่านี้มีการเผยแพร่สำหรับทุกคนให้เข้าไปดูได้โดยอิสระผ่านทาง https://www.youtube.com/user/GeoscienceAustralia หรือที่ www.ga.gov.au
ส่วนข้อมูลการค้นหาระยะที่ 2 ซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวถ่ายโดยยานสำรวจใต้น้ำไร้คนขับเพื่อการค้นหาซากเครื่องในพื้นที่ค้นหาโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นภาพเคลื่อนไหวขาว-ดำมีความละเอียดสูง แสดงให้เห็นถึงซากเรือจมอยู่กับท้องน้ำ และอื่นๆ นั้น ยังจำเป็นต้องผ่านกระบวนการดำเนินการ และเตรียมเผยแพร่ต่อสาธารณะในปี 2018 ต่อไป
นอกจากจะเข้าไปดู ตรวจสอบข้อมูลแล้วยังสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ได้โดยอิสระอีกด้วย