09.00 INDEX เมื่อ “ปรับทัศนคติ” ภายใต้ มาตรา 116 ขยายวงจาก”วัฒนา” มาถึง”ประวิตร”

แฟ้มภาพ

เมื่อโยนข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ให้ นายวัฒนา เมืองสุข
เป้าหมาย คือ 1 และ 25 สิงหาคม
แต่เมื่อมีการขยายจาก นายวัฒนา เมืองสุข ไปยัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์
แรกทีเดียวก็ยังคิดว่าน่าจะเหมือน นายวัฒนา เมืองสุข
เนื่องจาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ก็อยู่ในวงจรของพรรคเพื่อไทย ทั้งยังเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แต่เมื่อมีการลากดึง นายประวิตร โรจนพฤกษ์ เข้าไปอยู่ในข่ายแห่งมาตรา 116 ด้วย
ก็เริ่มชัดว่า “ไม่น่าจะใช่แล้ว”

นายประวิตร โรจนพฤกษ์ เป็น “สื่อ” และเป็นสื่อซึ่งมีจุดยืนแจ่มชัดว่าไม่เห็นด้วยกับ “รัฐประหาร”
ไม่ว่ารัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
ไม่ว่ารัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เขาเป็นคนหนึ่งซึ่งถูกเรียกเข้า “ปรับทัศนคติ” ตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ใหม่หมาด
และปรากฏตัวหน้ามทบ.11 ด้วยติดพลาสเตอร์ที่ปาก
จากเดือนพฤษภาคม 2557 ผ่านเดือนพฤษภาคม 2558 ผ่านเดือนพฤษภาคม 2559 ผ่านเดือนพฤษภาคม 2560
จุดยืน ทรรศนะ “ต้าน”รัฐประหารของเขาไม่เคยแปรเปลี่ยน
หากใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับ”รัฐประหาร”และแสดงออกผ่าน”เฟซบุ๊ค”จะถูกเรียกตัวด้วยมาตรา 116
ก็เท่ากับว่าการปรับทัศนคติเริ่มขยายวง

จากนี้จึงแสดงว่าทหารโดย “กกล.รส.”ได้มอบบทบาทนี้ให้กับฝ่าย “ตำรวจ”แล้วโดยบริบูรณ์
เห็นได้จากกรณี นายวัฒนา เมืองสุข
เห็นได้จากกรณี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ และโยงมาถึง นายประวิตร โรจนพฤกษ์
หรือว่านี่เป็นนโยบาย”ใหม่”เป็นนโยบายใหม่อันมาจาก “คสช.” เป็นนโยบายใหม่อันเปลี่ยนผ่านจาก “กกล.รส.”มายัง”ตร.”
ภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image