‘ชั่วโคตร’ขาวสะอาด โดย นฤตย์ เสกธีระ 

แฟ้มภาพ

ยิ่งอ่านยิ่งมันสำหรับข้อห้ามจากกฎหมายใหม่ๆ ที่ทยอยเปิดเผยออกมา

ทั้งกฎหมายที่ควบคุมนักการเมือง และกฎหมายที่ควบคุมข้าราชการ

อย่างกฎหมายควบคุมนักการเมืองนั้น สังเกตได้จากร่าง พ.ร.ป.ที่ กรธ.เสนอ

ขณะที่กฎหมายควบคุมข้าราชการและนักการเมืองอีกฉบับที่เพิ่งผ่าน ครม. เห็นจะเป็นร่างกฎหมาย 7 ชั่วโคตร

Advertisement

ชื่อเต็มๆ ว่า ร่างกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ….

เดิมแม้จะเรียกว่า กฎหมาย 7 ชั่วโคตร แต่เมื่อผ่าน ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกว่าเหลือชั่วโคตรเดียว

แต่แม้จะเหลือชั่วโคตรเดียว แต่ขอบอกว่าดุเดือดเผ็ดร้อน

Advertisement

ความดุเดือดอยู่ที่ “ชั่วโคตรเดียว” นี่แหละ

ร่างกฎหมายฉบับนี้ต้องการควบคุมให้ข้าราชการ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน มี “สีขาว”

ป้องกันมิให้ล้ำเข้าไปประพฤติเป็น “สีเทา” และ “สีดำ” จึงมีข้อกำหนดที่พาดพิงไปถึงพ่อแม่ เมีย ลูก

ข้อกำหนดดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อห้ามมิให้เข้าไปมีส่วนได้เสียไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือบุคคลอื่น ซึ่งเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับส่วนรวม

ส่วนข้อห้ามนั้นมีมากมาย กำหนดไว้ในมาตรา 5

มาตรา 5 ที่กำหนด มีทั้งหมด 6 ข้อใหญ่ ในจำนวน 6 ข้อนี้มี 3 ข้อที่โฟกัสไปที่ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการกองตามกฎหมาย ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ของรัฐตามที่ ป.ป.ช.กำหนด

ข้อห้าม 3 ข้อดังกล่าว ประกอบด้วย

หนึ่ง ห้ามกำหนดนโยบายหรือการเสนอให้มีความเห็นชอบร่างกฎหมาย หรือร่างกฎ ซึ่งเอื้อประโยขน์เป็นการเฉพาะต่อกิจการที่ตน คู่สมรส บุตร หรือบิดามารดา มีส่วนได้เสียเกินกว่าส่วนได้เสียตามปกติที่บุคคลทั่วไปมีอยู่ในกรณีที่เป็นนิติบุคคล

การเป็นหุ้นส่วนเกินร้อยละ 5 ของนิติบุคคลนั้น ถือว่าเป็นการมีส่วนได้เสียเกินกว่าส่วนได้เสียตามปกติ เว้นแต่เป็นการดำเนินการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาหรือผู้กำกับดูแล

สอง ห้ามใช้ข้อมูลภายในของรัฐที่ยังเป็นความลับอยู่ ซึ่งตนได้รับหรือรัฐจากการปฏิบัติราชการ การปฏิบัติหน้าที่หรือการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต

สาม ห้ามริเริ่ม เสนอ จัดทำ หรืออนุมัติโครงการของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐโดยทุจริต หรือเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อตนเองหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะไม่ทางตรงหรือทางอ้อม

กฎหมายยังกำหนดให้นำความบางตอนมาบังคับใช้กับคู่สมรส หรือบุตรของเจ้าหน้าที่รัฐ

และยังระบุอีกว่า หากมีส่วนรู้เห็นเป็นใจหรือยินยอมให้คู่สมรสหรือบุตร หรือรู้แล้วเพิกเฉยไม่แก้ไข กระทำความผิดลงไป

ให้คนคนนั้นรับโทษเช่นเดียวกับคู่สมรสและบุตร

อ่านร่างกฎหมายฉบับนี้แล้ว มองเห็นความตั้งใจของผู้ร่าง

ต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐ “ขาวสะอาด”

ไม่ได้ “ขาว” เฉพาะตัวเองเท่านั้น แต่เมีย ลูก รวมถึงพ่อแม่พี่น้องก็ต้อง “ขาว”

อ่านร่างกฎหมายนี้แล้ว เร่งวันเร่งคืน อยากลองให้ประกาศใช้

อยากเห็นประเทศ “ขาวสะอาด” 

……………….

นฤตย์ เสกธีระ [email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image