พิบูลมังสาหาร รวมแรงศรัทธา สร้างพลับพลาจำลอง

ชาวจังหวัดอุบลราชธานี รวมประชารวมใจสร้างพลับพลาจำลอง ย้อนรอยประวัติศาสตร์ เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2498

เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทั้งสองพระองค์เสด็จฯไปทอดพระเนตรธรรมชาติบริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

ทั้งสองพระองค์ได้ฉายพระรูปในพระอิริยาบถต่างๆ

Advertisement

เมื่อย้อนกาลเวลาไประหว่างวันที่ 2-20 พฤศจิกายน 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเยี่ยมราษฎรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด นับเป็นข่าวที่สร้างความปีติยินดีแก่ราษฎรเป็นอย่างยิ่ง ด้วยยังไม่เคยมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดเสด็จฯเช่นนี้มาก่อน

ทั้งสองพระองค์ทรงเยี่ยมราษฎรจนเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจ

ในห้วงเวลาระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินถึง จ.อุบลราชธานี ประทับแรมที่ค่ายทหารกองพลที่ 6 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2498 ราษฎรชาวอุบลราชธานีจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญถวายตามประเพณีท้องถิ่นที่วัดสุปัฏนารามวรวิหาร หลังจากเสด็จฯไปทรงเยี่ยมราษฎรที่มารอเฝ้าฯรับเสด็จ
จากนั้นได้เสด็จฯต่อไปยังแก่งสะพือ

Advertisement

เมื่อเสด็จฯถึงแก่งสะพือ ทรงถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกและพระราชทานพระปรมาภิไธยบนแผ่นหิน มีราษฎรชาวอุบลราชธานีเฝ้าฯรับเสด็จ เพื่อชื่นชมพระบารมีอย่างล้นหลาม ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรอย่างใกล้ชิด ไม่ถือพระองค์ ยังความปลาบปลื้มแก่ราษฎรผู้เฝ้ารอรับเสด็จเป็นอย่างมาก

ไพศาล ปีตาภา นายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร กล่าวว่า เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯไปทรงเยี่ยมราษฎรที่แก่งสะพือในครั้งนั้น ชาวอำเภอพิบูลมังสาหารได้ร่วมใจสร้างพลับพลาที่ประทับบริเวณแก่งสะพือ พระองค์ทอดพระเนตรแก่งสะพือและพระราชทานพระปรมาภิไธยบนแผ่นหิน

แต่ต่อมาพลับพลาที่ประทับได้ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา และถูกรื้อถอนออกไปแล้ว

“ชาวอำเภอพิบูลมังสาหารจึงร่วมใจกันสร้างพลับพลาที่ประทับจำลองแทนพลับพลาเก่า เป็นรูปทรงเดียวกับที่เคยสร้างรับเสด็จสองพระองค์ทอดพระเนตรแก่งสะพือแก่งหินกลางแม่น้ำมูล ทั้งนี้ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์ที่ได้เสด็จประพาสในครั้งนั้น เพื่ออนุรักษ์สถานที่ความทรงจำอันทรงคุณค่าและเป็นสิริมงคลยิ่งของชาวอุบลราชธานีไว้ให้เยาวชนลูกหลานได้ศึกษาเรียนรู้ตลอดไป พร้อมเป็นอนุสรณ์สถานและรำลึกถึงของสองพระองค์”

สำหรับพลับพลาจำลองที่สร้างขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม ใช้ไม้สักทองทั้งหลังเพื่อให้สมพระเกียรติยศ และสร้างในตำแหน่งเดิมที่เคยสร้างไว้เมื่อ 61 ปีก่อน โดยเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหารทำเรื่องเสนอไปยังนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และได้รับการอนุมัติให้มีการก่อสร้างได้

ไพศาลกล่าวว่า งบประมาณในการก่อสร้างพลับพลาได้มาจากการบริจาคของพี่น้องประชาชนชาวพิบูลมังสาหารและชาวอุบลราชธานี โดยทาง อ.พิบูลมังสาหารร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่รวบรวมทีมงาน โดยมีประกาศของ จ.อุบลราชธานีแต่งตั้งคณะทำงานขึ้น มีนายอำเภอพิบูลมังสาหารเป็นประธาน ได้ทำการลงเสาเอกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2559 ถือเป็นวันพ่อของปวงชนชาวไทยทุกคน โดยนายสมศักดิ์ ผู้ว่าฯอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธี และมีการจัดแสดงนิทรรศการพระบรมฉายาลักษณ์ของทั้งสองพระองค์เมื่อครั้งเสด็จฯเยือนแก่งสะพือ พร้อมลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ลงพระปรมาภิไธยสลักไว้บนแผ่นหินบริเวณแก่งสะพือให้นักท่องเที่ยว และประชาชนได้ร่วมแสดงความอาลัยแด่พระองค์ท่าน

“งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 2 ล้านบาท ได้มีการประชุมพูดคุยกันว่าพลับพลาหลังเก่าเป็นอาคารไม้แต่ดั้งเดิม จึงได้ข้อสรุปว่าจะต้องสร้างเป็นอาคารไม้เหมือนเดิม จะต้องทำให้สมพระเกียรติ จึงใช้ไม้สักทองทั้งหลัง โดยได้ขออนุญาตตัดให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง ที่ผ่านมามีการดำเนินการจัดซื้อรวมทั้งมีผู้นำมามอบให้ เงินที่ใช้ในการก่อสร้างก็ได้มาจากการบริจาคส่วนหนึ่งและจัดทำผ้าป่าสามัคคีอีกส่วนหนึ่ง ได้เงินมาทั้งสิ้นประมาณ 1,100,000 บาท เริ่มก่อสร้างไปแล้ว กำหนดให้แล้วเสร็จในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 เป็นวันที่สองพระองค์เสด็จฯมาที่แก่งสะพือ เมื่อ 61 ปีก่อน”

ไพศาลกล่าวว่า การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมาก ถ้าไม่มีอุปสรรคในเรื่องของฝนในการทำงาน เหลือระยะเวลาอีกประมาณ 3 เดือนก็จะเสร็จตามกำหนดแน่นอน

“อยากจะให้พลับพลาจำลองที่สร้างใหม่นี้เป็นอนุสรณ์ให้เยาวชนลูกหลานได้ศึกษาเรียนรู้ และในอนาคตก็จะทำเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน”

พลับพลาแห่งนี้แสดงถึงความประทับใจที่ชาวอำเภอพิบูลมังสาหารมีต่อเหตุการณ์สำคัญครั้งนั้น อย่างมิเสื่อมคลาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image