สตรี4ภาค รุดให้กำลังใจถึงทำเนียบ ‘บิ๊กตู่’ยิ้มร่า บอกจะไม่หงุดหงิดกับผู้หญิง

“บิ๊กตู่” ประชุม ครม. สตรี 4 ภาค ยื่น 8 ข้อเสนอเชิงนโยบายในวันสตรีสากล เรียกร้องรัฐบาลมีมาตรการพิเศษเพิ่มสัดส่วนทางการเมืองในรัฐธรรมนูญ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยก่อนการประชุม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำเครือข่ายสตรี 4 ภาคเข้าได้พบนายกรัฐมนตรีเพื่อมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2559 นอกจากนี้เครือข่ายสตรี 4 ภาค ยังมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อรัฐบาล 8 มาตรการ อาทิ มาตรการคุ้มครองสตรีจากความรุนแรงในครอบครัว เพท และการค้ามนุษย์ มาตรการเข้าถึงการศึกษาของเด็กหญิงและเยาวชนหญิง มาตรการการกำหนดในกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยขอให้รัฐกำหนดในกฎหมายรัฐธรรมนูญ เรื่องการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและชาย โดยมีมาตรการพิเศษกระตุ้นการมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้หญิง ด้วยการใช้ระบบกำหนดสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันในทางการเมืองทุกระดับ และต้องมีการรณรงค์ให้ผู้หญิงมีความมั่นใจในการเข้ามาทำงานทางการเมืองมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหา โดยรัฐบาลนี้ทำได้มากกว่ารัฐบาลอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่ทุกอย่างต้องเดินไปทีละขั้นตอน เราต้องเดินไปด้วยกัน และวันนี้จะไม่หงุดหงิดกับผู้หญิง และจะรับข้อเสนอไปพิจารณา แต่ต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ มีบางฝ่ายเรียกร้องให้ใช้กฎหมายมาตรา 44 กับกรณีที่มีการใช้ความรุนแรงกับเด็กและสตรีนั้น เราก็ต้องมาดูว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกฎหมายลูกว่าเขียนไว้อย่างไร ส่วนเรื่องปัญหาที่ดินหรือการบุกรุกต่างๆ ที่ภูเก็ตนั้น โดยรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดูแลให้อยู่ ซึ่งต้องดูว่าที่ดินดังกล่าวมีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร ในส่วนของปัญหายาเสพติดและอบายมุข รัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจ เร่งแก้ไขปัญหาให้แต่อย่าลืมว่ามันไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่เกิดมานานแล้ว

ส่วนข้อเรียกร้องให้กำหนดสัดส่วนสตรีในการทำงานด้านการเมืองนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันมีสัดส่วนอยู่แล้ว หากต้องการให้สตรีเข้ามามีบทบาทมากก็ให้สมัครเข้ามามากขึ้น สัดส่วนจะได้เพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับข้อเสนอที่จะให้มีการตั้งกองทุนสตรี เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้หญิงนั้น ขณะนี้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) มีงบประมาณในการดูแลและแก้ปัญหาอยู่แล้ว แต่หากจะให้เพิ่มงบประมาณมากขึ้นจะเอาเงินมาจากไหน เพราะในข้อเท็จจริงภาษีที่เก็บมาได้ก็ต้องนำมาใช้จ่ายทุกด้าน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image