บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ‘ร่วมวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมการออกกำลังกายด้วยมวยไทย’

วันที่ 19 กรกฎาคม 2560 วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล จัดพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการ โดยมีศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วย พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก (World Muaythai Council) นายจิระศักดิ์ อวกาศจักรวาฬ ประธานกรรมการบริษัท มวยไทย ไอ.กล้า (iGLA Company Limited) และ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม เพื่อพัฒนางานด้านวิชาการ งานวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมการออกกำลังกายด้วยมวยไทยให้ก้าวไปสู่ระดับโลก ณ ห้องประชุม 530 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับเกียรติจาก ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่น และ อ.นพ.ชนินทร์ ล่ำซำ คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ร่วมเป็นสักขีพยาน

ศ.นพ.อุดมกล่าวว่า “มหาวิทยาลัยมหิดลและวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มีความยินดีที่จะร่วมสร้างองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรมเพื่อไปสนับสนุนสุขภาวะที่ดีของประชาชนและศักยภาพของนักกีฬามวยไทย ให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และผลักดันกีฬามวยไทยให้ไปสู่ระดับโลก”

พล.อ.เชษฐากล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถใช้ศิลปะมวยไทยได้ดีมาก ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง แต่ในปัจจุบันประเทศต่างๆ ได้หันมาสนใจกีฬามวยไทยมากขึ้น ดังนั้นการที่เรามีมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนกีฬามวยไทย ด้วยความรู้และนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ก็จะเป็นส่วนหนึ่งให้นักกีฬามวยไทยสามารถแข่งขันในระดับสากลได้”

นพ.บุญกล่าวว่า “การที่กีฬามวยไทย จะก้าวไปสู่โอลิมปิกได้นั้น ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือองค์ความรู้ทางวิชาการและหลักสูตร การเรียนการสอนที่เป็นที่ยอมรับ จึงจะสามารถนำไปเผยแพร่ให้กลุ่มคนต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ ก็หวังว่ามหาวิทยาลัยมหิดลจะช่วยผลักดันในส่วนของวิชาการนี้ได้เป็นอย่างดีและทำให้กีฬามวยไทยก้าวไปสู่ระดับโลกได้”

Advertisement

นายจิระศักดิ์กล่าวว่า “แม่ไม้มวยไทย มีทั้งหมด 252 ท่า บริษัทได้ผลิตหลักสูตรการเรียนการสอนมวยไทยด้วยเทคนิคโมชั่นแคปเจอร์แอนิเมชั่น ซึ่งประเทศทั่วโลกต้องนำไปใช้ในการศึกษาเรียนรู้แล้ว ก็อยากจะขยายผลไปยังกลุ่มอื่นๆ ที่สนใจการออกกำลังกายด้วยกีฬามวยไทยเพื่อสุขภาพอีก 4 กลุ่ม ดังนี้

1.กลุ่มเด็กและเยาวชน ออกกำลังกายหน้าเสาธงและชั่วโมงพลศึกษา

2.กลุ่มหนุ่มสาว เพื่อสุขภาพและการลดน้ำหนัก

3.กลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง

4.กลุ่มผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เพื่อการฟื้นฟูสุขภาพและบำบัดโรค

และหวังว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการตอบโจทย์การพัฒนาศักยภาพของคนในชาติในยุคไทยแลนด์ 4.0 ได้เป็นอย่างดี

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image