สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม สหรัฐอเมริกาและแคนาดากำลังสอบสวนเหตุการณ์หลังนักการทูตที่สถานทูตสหรัฐในกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา ล้มป่วยลง ท่ามกลางรายงานข่าวระบุว่าพวกเขาตกเป็นเป้าของอาวุธคลื่นเสียงลึกลับ
เจ้าหน้าที่สหรัฐปฏิเสธที่จะโทษคิวบาโดยตรงสำหรับเหตุการณ์นี้ ซึ่งดูเหมือนเริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว และรัฐบาลฮาวานา ยืนยันว่าได้ทำงานเพื่อปกป้องสถานทูตสหรัฐ
นางฮีเธอร์ นอเอิร์ต โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐไม่ได้ระบุรายละเอียดของลักษณะเหตุการณ์ และจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ยืนยันว่ามีนักการทูตสหรัฐจำนวนหนึ่งที่ต้องเดินทางกลับประเทศมารักษาอาการป่วย
เจ้าหน้าที่ที่ไม่ขอเปิดเผยตัวตนบอกสื่อสหรัฐว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวอาจถูกทำร้ายด้วยอุปกรณ์คลื่นเสียงที่ยิงจากข้างในหรือไม่ก็ข้างนอกสถานทูตในกรุงฮาวานา
ข่าวระบุว่า มีบางประเทศที่พัฒนาอาวุธคลื่นเสียงหรือว่าคลื่นเสียงความถี่สูงที่ใช้สำหรับการควบคุมฝูงชน หรือไม่ก็ใช้สกัดกั้นโจรสลัดทางทะเลเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ทว่ายังไม่เคยมีกรณีที่รู้กันว่ามีการใช้เครื่องมือลักษณะนี้โดยหน่วยข่าวกรองที่เป็นปฏิปักษ์หรือผู้ก่อการร้ายในการโจมตีสถานทูตเลย
นางนอเอิร์ตเปิดเผยว่า การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป และว่ารัฐบาลสหรัฐไม่ได้กล่าวหาว่าคิวบาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้โดยตรง แต่การที่สหรัฐสั่งขับทูตคิวบา 2 รายออกจากกรุงวอชิงตันนั้น เธอยืนยันว่าคิวบาในฐานะประเทศที่ตั้งสถานทูตสหรัฐต้องรับผิดชอบด้านความมั่นคงปลอดภัย
วันเดียวกัน แคนาดายืนยันว่า มีนักการทูตของตน 1 รายที่มีอาการป่วยประเภทสูญเสียการได้ยิน ซึ่งแคนาดายืนยันว่าเป็นอาการป่วยคล้ายกับที่นักการทูตสหรัฐเป็นด้วย
