ท่าที ของสหรัฐ ปัญหา เกาหลีเหนือ รอบคอบ รัดกุม

การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐมีลักษณะในทาง “ยุทธศาสตร์”

เป้าหมายอยู่ที่การปิดล้อม “เกาหลีเหนือ”

ความสำเร็จในการดึงรัสเซียและจีนอันเป็น 1 ใน 5 มหาอำนาจจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มาลงมติเห็นชอบในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

ถือว่าสำคัญ ถือว่าทรงความหมาย

Advertisement

เพราะที่ผ่านมา ไม่ว่ารัสเซีย ไม่ว่าจีน ต่างมีท่าทีอย่างที่ภาษาไทยขมวดอย่างรวบรัดว่า “แทงกั๊ก” มาโดยตลอดในปัญหาอันเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ

เนื่องจากสายสัมพันธ์ “เก่า”

แต่ล่าสุด รัสเซีย จีน ต่างให้ความเห็นชอบกับมติอันผลักดันและเสนอมาจากสหรัฐ เพื่อต้องการบอยคอตและลอยแพ “เกาหลีเหนือ”

Advertisement

ทำให้กรณีเกาหลีเหนือร้อนแรงขึ้นมาโดยพลัน

ยุทธศาสตร์นี้ของสหรัฐดำเนินการมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เห็นได้จาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงกับยกหูมาหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อหลายเดือนก่อน

อันนำไปสู่ข่าวการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปสหรัฐ

ท่าทีนี้ของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ว่าจะซ่อนเงื่อนงำอะไรเอาไว้ แต่ที่น่าสังเกตก็คือ เป็นท่าทีอันต่างไปจากยุคของ นายบารัค โอบามา

ในห้วงนั้นด้านหลักอาจต้าน “เกาหลีเหนือ” แต่ก็ไม่ลงแรงระดับนี้

นั่นก็คือ ด้านหลัก นายบารัค โอบามา ยังมีท่าทีเย็นชาต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่โอนอ่อนถึงระดับออกปากให้ไปเยือน

แต่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีความนุ่มนวลมากกว่า

เป็นความนุ่มนวลมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ นายบารัค โอบามา ในกรณีอันเกี่ยวกับท่าทีของสหรัฐต่อเกาหลีเหนือ

ตรงนี้สหรัฐจึงได้ “มิตร” มากกว่า

ข้อน่าสังเกตก็คือ การยึดกุมยุทธศาสตร์อย่างมั่นแน่วทำให้ทางสหรัฐดำเนินกับไทยในลักษณะยืดหยุ่นและพลิกแพลงมากขึ้น

เห็นได้จากการออกปากเชิญจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์

เห็นได้จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศด้วยความมั่นใจว่ามีกำหนดการเดินทางไปเยือนสหรัฐในเดือนตุลาคม

ถามว่าการยืดหยุ่นทำให้สหรัฐได้อะไร

คำตอบก็คือ ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อการปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือมีความเข้มข้นมากขึ้น

แม้จะยืนยันตามมติของ “สหประชาชาติ” ก็ตาม

คำถามอยู่ที่ว่า สหรัฐต้องการเพียงเท่านี้หรือว่ามีเป้าหมายมากกว่านี้ ระยะเวลาในอีก 1 เดือนต่อมาจะมีคำตอบที่เด่นชัดมากขึ้น

น่าสังเกตว่า สหรัฐยังไม่พูดถึงกำหนดเวลาไปเยือน ท่าทีนี้ดำเนินไปเหมือนกับเมื่อแรกที่มีการพูดโทรศัพท์ระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นลักษณะการกบไต๋ของสหรัฐ

ไม่ว่าการเมืองระหว่างประเทศ ไม่ว่าการเมืองภายในประเทศ การกำหนดยุทธศาสตร์มีความสำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ

1 ทำความเข้าใจต่อ “ยุทธศาสตร์”

ขณะเดียวกัน 1 ทำความเข้าใจต่อ “ยุทธวิธี” ว่าเป็นไปแบบไหน

หากไม่เข้าใจ “ยุทธศาสตร์” ก็จะมองอะไรไม่ทะลุ แล้วก็ให้น้ำหนักกับ “ยุทธวิธี” จนมีลักษณะขยายอย่างผิดปกติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image