ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมว่า หลังจากที่จังหวัดตรังเกิดภาวะฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้กระแสลมพัดอย่างแรง แรงลมทำให้ต้นมะขามยักษ์บริเวณถนนทางหลวงชนบทสายตรัง-ท่าอากาศยานตรัง ต.โคกหล่อ อ.เมือง ขนาด 2 คนโอบ โค่นหักล้มปิดการจราจร ให้ผู้ใช้เส้นทางลัดเพื่อไปสนามบินตรัง ต้องเลี่ยงเส้นทางเพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยานตรัง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลโคกหล่อได้ช่วยกันตัดกิ่งต้นมะขามเพื่อเปิดการจราจรได้แล้ว นอกจากนั้นยังมีน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนชาวบ้านใน 4 อำเภอ เช่นที่ตำบลช่อง ตำบลละมอ ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง, ตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน, บ้านน้ำพราย ตำบลปากแจ่ม ตำบลลำภูรา อำเภอห้วยยอด ซึ่งเพิ่งถูกน้ำป่าหลากไปเมื่อคืนเพิ่งแห้งเมื่อเช้า และ ตำบลน้ำผุด ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองตรัง ซึ่งทั้งหมด 4 อำเภอกว่า 100 ครัวเรือน โดยเฉพาะหมู่ที่ 3,4,6 และ 8 ต.น้ำผุด อ.เมือง น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมโรงเรียนน้ำผุดและบ้านเรือนประชาชน ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 10-60 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น สวนยางพาราและสวนผลไม้ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ส่วนบนถนนสายบ้านโพธิ์ บริเวณห้วยยางแดง หมู่ 5 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง น้ำท่วมผิวการจราจรเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร รถเล็กยังสามารถผ่านได้
นางกุลธารินทร์ โรจนสุรสีห์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง กล่าวว่า หลังจากที่จังหวัดตรังเกิดภาวะฝนตกหนักในช่วงบ่ายถึงค่ำ หลายวันติดต่อกัน ทำให้เกิดการสะสมของมวลน้ำบนเทือกเขาบรรทัดและไหลลงสู่พื้นที่ราบลุ่มเชิงเขา น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม 4 อำเภอ 5 ตำบลกว่า 30 หมู่บ้าน ประกอบด้วย ต.ละมอ, ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง, ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด, ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน และ ต.นาโยงใต้ อ.เมือง โดยเฉพาะที่หมู่ 4 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก ระดับน้ำท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านและบ้านเรือนชาวบ้านสูงตั้งแต่ 10-50 เซนติเมตร ส่วนที่ตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน น้ำป่าได้หลากท่วม 7 หมู่บ้านคือหมู่ 1,3,4,5 และ 6 กว่า 150 หลังคาเรือน นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือนสิงหาคมปีนี้ โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำตัดขาดเป็นช่วงๆ ไม่ต่ำกว่า 4 สายทาง ระยะทางประมาณ 30-200 เมตร ทำให้หลายหมู่บ้านต้องตัดขาดจากโลกภายนอก ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 1 เมตร แต่ยังโชคดีที่เป็นวันหยุดชดเชยทำให้เด็กๆ ไม่ต้องไปโรงเรียน ชาวบ้านหลายคนจึงรอระดับน้ำลดลงเพื่อเดินทางออกมาทำธุระนอกบ้านได้
