แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ร้างแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งแต่ฤดูกาลที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตตำนานผู้จัดการทีมวางมือไปฤดูกาล 2012-13 ทั้งที่เป็นถึงแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมากสุด 20 สมัย และจบแค่อันดับ 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา แก้ตัวด้วยการออกสตาร์ตฤดูกาลนี้ 2017-18 กับตำแหน่งจ่าฝูง หลังเปิดโอลด์แทรฟฟอร์ดถล่มเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-0 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม
“ปีศาจแดง” ภายใต้การทำทีมปีที่ 2 ของโจเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือเชลซี, รีล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และเอฟซี ปอร์โต้ วัย 54 ปี ซึ่งใช้เงินซื้อนักเตะในฐานะนายใหญ่แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้วเกือบ 300 ล้านปอนด์ (13,200 ล้านบาท / อัตรา 1 ปอนด์ 44 บาท) ได้ 4 ประตูเกมนี้จากโรเมลู ลูกากู ศูนย์หน้าตัวใหม่ราคา 75 ล้านปอนด์ (3,300 ล้านบาท) 2 ลูก นาที 33 และนาที 52
ตามด้วยอ็องโตนี่ มาร์กซิยัล ตัวสำรองนาที 87 และปอล ป๊อกบา อดีตนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของโลก 89 ล้านปอนด์ (3,916 ล้านบาท) นาทีสุดท้าย
ส่งผลให้แมนฯ ยูไนเต็ด มี 3 คะแนนเท่าฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, อาร์เซน่อล, เบิร์นลีย์, เอฟเวอร์ตัน และเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แต่นำเป็นจ่าฝูงเพราะมีผลต่างประตูได้เสียเหนือกว่า
ส่วนมูรินโญ่ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า ลูกากูที่มีค่าตัวมหาศาลสุดของการซื้อขายนักเตะอังกฤษฤดูกาลนี้ ได้ยกความกดดันที่มีอยู่ทั้งหมดออกไปแล้ว เนื่องจากอดีตดาวยิงเอฟเวอร์ตัน ซึ่งทำประตูในเกมยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ ที่แพ้รีล มาดริด 1-2 สามารถยิงได้อีก 2 ประตูในเกมนี้ เพราะต่อให้บรรดาศูนย์หน้าจะเล่นได้มหัศจรรย์แค่ไหน ถ้าทำประตูไม่ได้ต้องกดดันแน่ จึงเป็นเรื่องดีที่ลูกากูยิงได้ และก็เหมือนนักเตะใหม่ทุกคนที่ทำประตูได้ตั้งแต่เกมแรกที่ลงเล่น
อย่างไรก็ตาม แม้ปีศาจแดงจะเปิดฤดูกาลด้วยตำแหน่งผู้นำ แต่ “เดอะ สเปเชียล วัน” ยืนยันว่า ฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ออกสตาร์ตด้วยการเป็นจ่าฝูง หลังบุกชนะบอร์นมัธ 3-1 ทว่ากลับจบฤดูกาลด้วยอันดับ 6 ดังนั้น การถล่มทีม “ขุนค้อน” ในเกมนี้ ไม่ได้รับประกันอะไรเลยเมื่อจบฤดูกาล และจากประสบการณ์ที่คุมทีมในพรีเมียร์ลีกก่อนหน้านี้กับเชลซีมาหลายปี ทำให้ตัวเองไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับการเปิดสนามครั้งนี้
ผลอีกคู่วันเดียวกัน
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ สเปอร์ส 0-2
