เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการนำภาพหนังสือบันทึกชี้แจงผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา นายหนึ่ง ที่ชี้แจงกรณีที่ตนเองไม่ได้เดินทางไปเข้าแถวเคารพธงชาติและรับฟังการมอบนโยบายของผู้บังคับบัญชาทุกวันอังคาร โดยมีข้อความระบุว่า “ข้าพเจ้าขอรายงานชี้แจงกรณีไม่มาเข้าแถวเคารพธงชาติทุกวันอังคาร เมื่อวันที่ 11 ส.ค.60 เวลา 08.00 น. ที่หน้า สภ.เสิงสาง เพื่อเคารพธงชาติ เพื่อกล่าวคำปฏิญาณและรับฟังคำชี้แจงของผู้บังคับบัญชานั้น ขอเรียนชี้แจงว่า ในวันเวลาดังกล่าว ข้าพเจ้าต้องเดินทางไปส่งภรรยานอกสมรสไปทำธุระส่วนตัว ซึ่งปกปิดเป็นความลับภรรยาปัจจุบันเป็นเวลานานแล้ว และต้องจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่ไปส่งจะทำให้ภรรยานอกสมรสเคืองอาจจะนำมาซึ่งความเสียหายหนีไปปันใจให้ชายอื่นได้ ในการขาดรวมแถวครั้งนี้ ข้าพเจ้าไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการแต่อย่างใด” ขณะที่มีผู้บังคับบัญชาที่รับเรื่อง ลงความเห็นเป็นลายมือว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวชี้แจงมีเหตุผล สมเป็นลูกผู้ชายตัวจริง เห็นควรอนุญาต จนเป็นที่กล่าวถึงกันอย่างกว้างขวางและมีการแชร์บันทึกข้อความนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดียกันอย่างแพร่หลายอยู่ในขณะนี้นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ สุขเจริญ ผู้กำกับการ สภ.เสิงสาง ได้รับการเปิดเผยว่า เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวตนเองรับทราบเรื่องแล้ว และได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจซึ่งระบุอยู่ภายในบันทึกข้อความนั้นจริง และได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวมาชี้แจงแล้ว ซึ่งยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเกี่ยวกับบันทึกข้อความที่มีการเผยแพร่ออกมาดังกล่าว
ผู้กำกับการ สภ.เสิงสาง กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบภาพหนังสือดังกล่าวพบว่ามีหลายจุดที่ไม่เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนการรายงาน เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำบันทึกชี้แจงจะต้องส่งเรื่องถึงผู้บังคับบัญชาโดยตรง กรณีนี้จะต้องเขียนรายงานไปถึงรองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม หรือทางสารวัตรป้องกันและปราบปราม ก่อนที่หนังสือจะส่งมาถึงผู้กำกับสถานี แต่หนังสือดังกล่าวกลับแทงเรื่องผ่านไปยังทางพนักงานสอบสวน ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดขั้นตอนอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงเชื่อได้แล้วว่าหนังสือดังกล่าวไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน ส่วนหนังสือนี้จะมีต้นตอมาจากที่ใด จะได้มีการสอบสวนอีกครั้ง และอยากวอนให้ผู้บริโภคสื่อทุกคนเข้าใจและตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงของข้อมูลที่ได้มาก่อนที่จะโพสต์แชร์ เนื่องจากอาจจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายได้
