นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2560 จำนวน 5,979 ราย ลดลง 8% เทียบเดือนมิถุนายน 2560 และเพิ่มขึ้น 22% เทียบเดือนกรกฎาคม 2559 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ 21,258 ล้านบาท ลดลง 48% เทียบเดือนมิถุนายน 2560 และเพิ่มขึ้น 38% เทียบเดือนกรกฎาคม 2559 ประเภทธุรกิจที่มีการประกอบธุรกิจใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 640 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 328 ราย ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร 167 ราย ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ 164 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 129 ราย ทำให้ 7 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-กรกฎาคม) มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท 41,921 ราย เพิ่มขึ้น 14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าจดทะเบียนทั้งสิ้น 185,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31%
“ตัวเลขจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เดือนกรกฎาคมแม้จะลดลงจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ไม่มีนัยสำคัญที่บอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ถือว่าลดลงเล็กน้อย ตัวเลขยังอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยการจดแต่ละเดือนที่ 5,500 ราย ขณะที่ทุนจดทะเบียนลดลง เนื่องจากไม่มีบริษัทที่ทุนเกิน 1,000 ล้านบาทมาจดในช่วงเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตามภาพรวมทั้ง 7 เดือนยังดี สะท้อนเศรษฐกิจยังน่าสนใจ การจดทะเบียนเริ่มมากกว่าเลิกอย่างชัดเจน ประกอบกับมีปัจจัยบวกหลายประการเป็นแรงส่ง ทั้งการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวดี การส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว การลงทุนและเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ เม็ดเงินเริ่มกระจายสู่ท้องถิ่น มีมาตรการภาษีของภาครัฐจูงใจให้เอกชนลงทุน และมีสินเชื่อส่งเสริมเอสเอ็มอี ขณะที่น้ำท่วมไม่กระทบการจดจัดตั้งบริษัทเพราะส่วนใหญ่จดในกรุงเทพฯ และสามารถจดข้ามจังหวัดได้”นางสาวบรรจงจิตต์กล่าวและว่าจากตัวเลขดังกล่าวทางกรมจึงได้ปรับเพิ่มเป้ายอดขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ของทั้งปี 2560 ประมาณ 70,000 ราย หรือเพิ่มขึ้น 5% จากปีที่ผ่านมา และมั่นใจว่าจะมีการจดจัดตั้งใหม่ทั้งปีนี้เกิน 66,000 ราย หรือเพิ่มขึ้น 3% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคาดการณ์เดิมที่ตั้งไว้
