กกต.รับทราบ มติป.ป.ช.ชี้มูล “อำพล”แล้ว แต่ยังไม่พิจารณาเรื่องเลขาฯกกต. คนใหม่ หลัง พบการชี้มูลยังไม่ถึงที่สุด จึงยังไม่อาจเอาผิดเรื่องการขาดคุณสมบัติได้
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ศูนย์ศึกษาประชาธิปไตย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง รักษาการแทนเลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ได้พิจารณาหนังสือที่สำนักงาน ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายอำพล วงศ์ศิริ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต.คนใหม่ ซึ่งในส่วนของสำนักงาน ก็ได้มีการเสนอข้อมูลให้ที่ประชุมพิจารณาว่าการที่ป.ป.ช. มีมติชี้มูลจะถือว่านายอำพล ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งหรือไม่ เนื่องจากนายอำพล มีปัญหาเรื่องการซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งตนเป็นหนึ่งในผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นเลขาธิการ กกต. จึงไม่ได้อยู่ร่วมประชุมในเรื่องดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นรักษาการเลขาฯ ยืนยันว่าแม้จะยังไม่มีเลขาฯ คนใหม่ ทางสำนักงาน ในฐานะฝ่ายธุรการ ก็พร้อมที่จะเดินหน้าในการขับเคลื่อนงานอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้งานสะดุด จะเดินหน้าร่างระเบียบ 30-40 ฉบับ และประกาศที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายลูก 4 ฉบับ เพราะหากรอกฎหมายลูกบังคับใช้แล้วจะมาร่างไม่ทัน เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นับแต่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศใช้ รวมทั้งเดินหน้าสร้างนวัตกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเลือกตั้ง และการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนเลือกคนที่มีคุณภาพเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ ซึ่งตนก็รักษาการตำแหน่งเลขาธิการ กกต.มา 2 ปีแล้วและไม่มีปัญหา หาก กกต.จะมีมติให้ตนรักษาการต่อไป โดยยังไม่มีการเลือกเลขาฯ กกต.คนใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงาน โดยอ้างแหล่งข่าวว่า ในที่ประชุมกกต.ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่ได้มีการหารือกันจากหนังสือที่ ป.ป.ช.ส่งมา ระบุว่า นายอำพล มีความผิดทางวินัย แต่ในประกาศรับสมัครเลขาฯ กกต. ระบุว่า บุคคลที่จะได้รับการคัดเลือกต้องไม่มีความผิดทางอาญาและทางวินัย ซึ่งในกรณีของนายอำพล ต่างมีความเห็นว่า ป.ป.ช. ชี้มูลมีความผิดทางวินัย ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องส่งเรื่องไปให้ผู้บังคับบัญชา ปลดออกหรือไล่ออกก่อน จึงจะถือว่ากระบวนการเสร็จสิ้น และขัดต่อประกาศการสรรหาเลขาฯ กกต. ของสำนักงาน กกต. จึงยังไม่มีการพิจารณาหรือมีมติในเรื่องดังกล่าวออกมา