50 ครอบครัว พร้อมซาไกอีก 30 ชีวิตถูกตัดขาดโลกภายนอก เหตุน้ำป่าพัดสะพานขาด โทรศัพท์ทุกเครือข่ายไร้สัญญาณ

ชาวบ้านกว่า 50 ครัวเรือนและชนเผ่าซาไกกว่า 30 ชีวิต ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และยังมีนักเรียนกว่า 20 คนเดินทางไปโรงเรียนไม่ได้ หลังจากเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ถูกน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากทะลักพัดสะพานในหมู่บ้านขาดสะบั้น อีกทั้งมีดินสไลด์ต้นไม้ใหญ่ล้มปิดถนนหลายจุด ในขณะที่บ้านอีก 1 หลัง สร้างอยู่ริมคลองดินทรุดตัวเข้าถึงตัวของบ้านหวั่นบ้านพังทรุดตัวลงคลองอย่างน่าหวาดเสียว

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 15 สิงหาคม 2560 นายเพียร วัตมี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลลิพัง นำผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและความเดือดร้อนของชาวบ้านชุมชนบ้านห้วยไทร บ้านท่าเขา หมู่ที่ 5 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมทั้งหมู่บ้านกว่า 100 หลังคาเรือน สะพานคลองลิพังโดนกระแสน้ำตัดคอสะพานขาด พื้นสะพานเป็นไม้โดนกระแสน้ำพัดหลุดไปทั้งแผง ชาวบ้านไม่สามารถเดินทางผ่านไปมาได้ มีชาวบ้านนับ 50 ครัวเรือน เด็กนักเรียนกว่า 20 คนไป โรงเรียนไม่ได้ รวมทั้งด้วยเผ่าซาไกกว่า 30 ชีวิต ที่ต้องตัดขาดจากโลกภายนอกออกมาไม่ได้
ขณะที่ตลอดเส้นทางมีดินสไลด์ลงมาปิดเส้นทางหลายจุด บางจุดต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนน ทำให้การสัญจรผ่านไปมาไม่สะดวก รวมถึงบ้านของนางจิตรา ด้วงดำ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 /2 ซึ่งสร้างบ้านอยู่ใกล้กับลำคลองโดนน้ำกัดเซาะพนังดิน ดินทรุดตัวเข้าจนถึงตัวบ้าน หวั่นบ้านจะพังทรุดตัวลงมาด้วยความสูงของตัวบ้านกับลำคลองสูงกว่า 10 เมตร จนต้องขนข้าวของไปอาศัยอยู่กับญาติที่อยู่ใกล้ ๆ บ้าน

สำหรับสะพานคลองลิพังนั้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังได้ใช้งบประมาณก่อสร้างเมื่อปี 2547 จำนวน 160,000 ปรับปรุงสะพานห้วยไทรแต่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังสร้างแต่ตอหม้อสะพานให้เพียงแค่นั้น ส่วนพื้นสะพานชาวบ้านต้องใช้ไม้ในการสร้างพื้นสะพานกันเอง

นายเพียร วัตมี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลลิพัง กล่าวว่า ปัญหาหลักในตอนนี้คือนักเรียนเปิดเรียนไม่สามารถออกมาเรียนหนังสือได้ สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะไปพูดคุยกับเจ้าของพื้นที่ส่วนบุคคลขออนุญาตใช้พื้นที่ถนนก่อนชั่วคราว แต่ยังไม่แน่ใจว่าทางเจ้าของที่จะอนุญาตหรือไม่ สำหรับน้ำป่าไหลหลากครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วในเฉพาะเดือนนี้ ครั้งนี้หนักสุดเพราะพัดจนสะพานขาด ทางองค์การบริหารส่วนตำบลลิพังมีแผนรองรับอยู่หากชาวบ้านเดือดร้อนจะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาคอยให้ความช่วยเหลือ สำหรับดินสไลด์ถมทางนั้นต้องรอให้ดินแห้งก่อนที่จะใช้รถเข้าทำการเกลี่ยปรับพื้นที่

Advertisement

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตามมาหลังจากสะพานภายในหมู่บ้าน เพื่อออกมาสู่ด้านนอก คือ ภายในริมภูเขา ใกล้กับเจ้าพะ มีเผ่าซาไกอาศัยอยู่ประมาณ 30 คน มีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีชนเผ่าซาไก ที่ไม่สามารถออกมาซื้อสินค้าเพื่อบริโภคสิ่งที่จำเป็นของเผาซาไก ทั้งน้ำมันตะเกียง เพื่อจุดเป็นแสงสว่าง โดยเฉพาะข้าวสาร ซึ่งเผ่าซาไกจะซื้อจากร้านค้าในแต่ครั้ง แค่พอกินแต่ละมื้อเท่านั้น ดังนั้นเมื่อสะพานที่จะออกมายังภายนอกถูกตัดขาดจากน้ำป่า จะสร้างความอดยากให้กับชนเผ่าซาไกทั้งการกินและความเป็นอยู่อย่างแน่นอน และผ่านไป 1 วัน ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดที่จะยืนยันที่จะสร้างสะพานทั้งแบบชั่วคราวหรือแบบถาวรให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในช่วงนี้ ขณะที่ชาวบ้านเองก็ยังหวาดกลัวกับภัยน้ำป่า หลังจากยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในพื้นที่ดังกล่าวโทรศัพท์ทุกเครือข่ายไม่สามารถใช้งานได้ ในการที่จะได้รับการติดต่อจากบุคลภายนอกหรือหน่วยงานราชการในการเตือนภัยแก่ชาวบ้าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image