น้ำท่วมเหลืออีก 7 จังหวัด 33 อำเภอ ดับรวม 34 ราย ด้าน “ปภ.” เร่งคลี่คลายสถานการณ์
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 44 จังหวัด รวม 301 อำเภอ 1,661 ตำบล 13,312 หมู่บ้าน 43 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 583,448 ครัวเรือน 1,850,403 คน ผู้เสียชีวิต 34 ราย เบื้องต้นบ้านเรือนได้เสียหาย 2,574 หลัง แยกเป็น เสียหายบางส่วน 2,559 หลัง เสียหายทั้งหลัง 15 หลัง ถนน 2,401 สาย คอสะพาน 111 แห่ง บ่อปลา 21,732 บ่อ ปศุสัตว์ 801,943 ตัว พื้นที่การเกษตร 4,055,227 ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 37 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 7 จังหวัด 33 อำเภอ 201 ตำบล 1,238 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,994 ครัวเรือน 136,658 คน จุดอพยพ 37 จุด 1,818 ครัวเรือน 6,451 คน แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ 1.สกลนคร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 18 อำเภอ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสกลนคร อ.กุสุมาลย์ และอ.โคกศรีสุพรรณ 2.กาฬสินธุ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 18 อำเภอ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย และอ.ร่องคำ
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า 3.นครพนม ฝนที่ตกหนักและมวลน้ำจากหนองหาร จังหวัดสกลนครไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.นาแก อ.นาหว้า 4.ร้อยเอ็ด น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 20 อำเภอ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เสลภูมิ อ.เชียงขวัญ อ.จังหาร อ.โพธิ์ชัย และอ.ทุ่งเขาหลวง 5.ยโสธร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 9 อำเภอ ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองยโสธร อ.คำเขื่อนแก้ว อ.มหาชนะชัย และอ.ค้อวัง 6.อุบลราชธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 22 อำเภอ ปัจจุบันยังมีสถานการณ์ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอุบลราชธานี อ.วารินชำราบ อ.ม่วงสามสิบ และอ.เขื่องใน ขณะที่ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมกำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ส่วนจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัยให้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
