10 เดือนจับยาเพิ่มเท่าตัว ไอซ์พุ่ง 340% ว้ารายใหญ่-รายย่อยตึม

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ด่านศุลกากรแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดสะพานข้ามลำน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบช.ตร. นายพิภพ ชำนิวิกัยพงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.ภานะเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของหน่วยงานต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา โดยมี พล.ท.ธนา จารุวัต แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ ผบ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ(ศป.ปส.ชน.) นำที่แถลง

โดยมีการแจ้งถึงสถานการณ์ว่า ที่ผ่านมามีการลักลอบนำเข้าด้านพื้นที่ชายแดนภาคเหนือในลักษณะมากจนล้นตลาด ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดทั้งยาบ้า ยาไอซ์ ฯลฯ ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2558-วันที่ 3 ก.ค.2559 ตรวจยึดยาบ้าได้ 68,394,570 เม็ด ยาไอซ์ 876.56 กิโลกรัม(กก.) และตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2559-วันที่ 3 ก.ค.2560 ตรวจยึดยาบ้าได้เพิ่มขึ้นเป็น 134,399,290 เม็ด ยาไอซ์ 3,857.35 กก. โดยมียาบ้าเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 66,404,720 เม็ด คิดเป็น 77.1% และยาไอซ์เพิ่มขึ้น 2,980.79 กก. คิดเป็น 340.1% หรือเกือบ 4 เท่าตัว

สำหรับการลักลอบนำเข้ายังคงอยู่ในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ คือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ถึงร้อยละ 96.8 เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่นของประเทศ โดยเฉพาะ อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบมีปัญหาการนำเข้ามากที่สุดเนื่องจากอยู่ใกล้เครือข่ายผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเป็นกลุ่มมูเซอและอาข่าในประเทศเพื่อนบ้านที่เชื่อมโยงกับคนไทยที่มีหมายจับคดียาเสพติดแต่หลบหนีเข้าไปอยู่ในเขต จ.ท่าขี้เหล็ก และ จ.เมืองสาด ประเทศเมียนมา ตรงกันข้ามกับ 2 อำเภอของไทยดังกล่าว จากนั้นจัดการด้านการตลาดด้วยวิธีการที่หลากหลายวิธีเพื่อพยายามส่งยาเสพติดเข้ามาประเทศไทย

ทาง ศป.ปส.ชน.ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ตอนในต่อเนื่องจำนวน 21 อำเภอในเขต 3 จังหวัดดังกล่าว จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดกั้นและปราบปรามอย่างหนัก รวมทั้งสร้างชุมชนเข้มแข็งให้ชุมชนชายแดน เช่น บ้านห้วยส้าน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยฟื้นฟูและจัดระเบียบเพื่อสร้างความมั่นคงในพื้นที่หลังจากที่มีการจับกุมเครือข่ายนายเล่าต๋า แสนลี่ ไปแล้ว จัดกิจกรรมตามกลุ่มชาติพันธุ์ชายแดนต่างๆ บำบัดรักษาผู้เสพด้วยระบบสมัครใจ 6 รุ่น จำนวน 600 คน

Advertisement

ทั้งนี้มีปฏิบัติการต่างๆ คือแผนยุทธการที่ 4/60 -ศป.ปส.ชน.ร่วมกับฝ่ายเมียนมา และหน่วยงานไทย เช่น ป.ป.ส.ตำรวจ ปส.กองกำลังผาเมือง ภ.5 ฝ่ายปกครอง ส่วนฝ่ายเมียนมามี จ.เมืองสาด และ จ.ท่าขี้เหล็ก โดยปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดทั้ง 2 ฝ่าย แผนปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 60/5 แผนปฏิบัติการทำลายเครือข่าย ยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.เชียงราย ปี 2558-2562 แผนปฏิบัติการลุ่มแม่น้ำโขงปลอดภัย 6 ชาติ เป็นต้น

ส่วนฝ่ายเมียนมานั้นต้องขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยเป็นอย่างดี โดยในรอบปีที่ผ่านมาทางการเมียนมามีการตรวจยึดยาเสพติดในประเทศของตนเองค่อนข้างมาก โดยเป็นยาบ้ามากถึง 59 ล้านเม็ด เศษและยาบ้าผง 117 กก. เฮโรอีน 638 กก. และยาไอซ์ 132 กก. ซึ่งมีแนวโน้มที่มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะชายแดนที่ติดกับประเทศไทยดังกล่าว โดยหลังมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-เมียนมา หรืออาร์บีซี ครั้งที่ 31 เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมาที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างแม่ทัพภาคที่ 3 ของไทย และ พล.ท.มินหน่อง ผบช.สำนักปฏิบัติการพิเศษที่ 4 และทำข้อตกลงแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน กระทั่งวันที่ 21 ก.ค.ได้มีการหารือเพื่อร่วมกันปราบปรามทั้ง 2 ฝั่งประเทศดังกล่าว ซึ่งพบว่าเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมาฝ่ายเมียนมามีการจับกุมครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ โดยจับกุมเครือข่ายผู้ผลิตกลุ่มมูเซอที่ จ.ท่าขี้เหล็ก และยึดของกลางยาบ้าได้กว่า 18 ล้านเม็ด เฮโรอีน 9 กก. ยาไอซ์ 202 กก. และเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความจริงใจของประเทศเมียนมาในการร่วมกันปราบปราม

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกลุ่มผู้ผลิตรายหลักในปัจจุบันยังคงเป็นกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) ในเขตปกครองพิเศษที่ 2 พื้นที่รัฐฉานตอนเหนือ กองกำลังพันธมิตรชาติประชาธิปไตยในเขตปกครองพิเศษที่ 4(เมืองลา) ติดชายแดนจีน และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา(โกกั้ง) โดยแต่ละกลุ่มมีกองกำลังติดอาวุธคุ้มกันจำนวนมาก จึงเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านในการเข้าไปจัดการ และทำให้กลุ่มเหล่านี้มีศักยภาพในการผลิตยาเสพติดโดยสังเกตจากมาตรฐานของส่วนผสมยาเสพติดที่ยึดได้ไม่มีเปลี่ยนแปลงและสารตั้งต้นก็ลักลอบไปจากประเทศจีน เวียดนาม ผ่าน สปป.ลาว และไทย

นอกจากนี้ยังพบกลุ่มผู้ผลิตหรืออัดเม็ดยาบ้าในเขตรัฐฉานตอนใต้ติด 3 จังหวัดภาคเหนือดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยนำหัวเชื้อและผงยาบ้ามาจาก UWSA แล้วนำมาประทับตราสัญลักษณ์บนห่อยาบ้าเป็นของกลุ่มต่างๆ เช่น สัญลักษณ์เลข 1, 2, 12 มาจากแหล่งผลิตเมืองทาใหม่ของกลุ่มว้าใต้ สัญลักษณ์เลข 999 สีแดงมาจากแหล่งผลิตปูนาโก่ ของกลุ่มมูเซอแดงเครือข่ายของนายจะงอย และเลข 999 สีน้ำเงินของนายจะลอโบ่ สัญลักษณ์ Y1 มาจากแหล่งผลิตบ้านน้ำปุ๋งของ พ.ท.ยี่เซ กลุ่มมูเซอ แหล่งผลิตน้ำรวกของกลุ่มจีแอลจี แหล่งผลิตบ้านหนองเทาของกลุ่มว้าตระกูลเหว่ย แหล่งผลิตของกลุ่มอาข่า/เซเว่นคลับซึ่งมี 7 หุ้น 3 ตระกูลหลัก คือ ยางเปียง มาเยอะ หรือมาเยาะ หม่อโป๊ะกู่ กลุ่มม้าบินซึ่งเป็นรุ่นลูกหลานของเซเว่นคลับ และกลุ่มอาข่าบ้านผาขาว ซึ่งในการแถลงครั้งนี้ระบุว่าทั้งหมดล้วนเป็นเหตุให้ปริมาณการผลิตยาเสพติดและลักลอบนำเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น จึงต้องอาศัยความร่วมมือไทย-เมียนมาในการปราบปรามดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่าวันเดียวกันทาง ตร.ได้แถลงผลปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 60/5 “เครือข่ายสามเหลี่ยมทองคำ” ระหว่างวันที่ 5-19 ส.ค. ว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหารายใหญ่ได้ 3 คดี โดยคดีแรกของกลางเป็นยาบ้า 160,000 เม็ด รถกระบะ 1 คัน ผู้ต้องหาชื่อนายบุญชัย ชาติไทยเจริญ อายุ 29 ปี นายเทียนชัย ชัยเจริญเวียงฟ้า อายุ 31 ปี และนายวิระ สว่างยอดฟ้าเจริญ อายุ 25 ปี คดีที่ 2 ของกลางเป็นยาบ้า 880,000 เม็ด ยาไอซ์ 1 กก. ผู้ต้องหาชื่อนายสิทธิโชค บริบูรณ์ อายุ 28 ปี นายสหภาพ ปิยะรัตน์ อายุ 24 ปี นายศิวาร สิงขุนทด อายุ 20 ปี และนายวรวงศ์ ทาหอม อายุ 20 ปี คดีสุดท้ายมียาไอซ์น้ำหนัก 50 กก. รวมของกลางทั้งหมดมียาบ้า 1,040,000 เม็ด ยาไอซ์ 51 กก.

นอกจากนี้ได้ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 50 จุด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 15 ราย ผู้ต้องหาใหม่ 18 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ 41 รายการ มูลค่า 533 ล้านบาท โดยเป็นรถยนต์ 15 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน มูลค่า 15,432,000 บาท โฉนดที่ดิน 8 โฉนด มูลค่า 508,122,035 บาท และอื่นๆ เช่น ทองคำรูปพรรณ ธนบัตรไทย นาฬิกาข้อมือ ฯลฯ มูลค่า 9,476,416 บาท

ด้านนายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า ในปี 2560 นี้ จ.เชียงรายสามารถสกัดยาเสพติดเป็นยาบ้าได้กว่า 43,615,256 เม็ด เฮโรอีน 170 กก. ยาไอซ์ 186 กก. ทางจังหวัดได้มีการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งและบำบัดฟื้นฟูผู้เสพได้ 5 รุ่น รุ่นละ 60 คน รวม 300 คน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image