เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูป 11 คณะ ว่า รายชื่อของคณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 11 คณะ โดยภาพรวมแล้วถือว่า อยู่ในขั้นรับได้ และคิดว่ารายชื่อที่ออกมาหลายคนก็เป็นมืออาชีพในแต่ละด้าน มีประวัติที่โปร่งใส เคยทำประโยชน์ให้กับสังคมมาในระดับหนึ่ง ส่วนที่มีอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) เข้ามาอยู่ในคณะกรรมการด้วยนั้น คิดว่าอดีตสปท.ที่เข้ามาไม่ได้เข้ามาแล้วเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน แม้ในช่วงที่ผ่านมาสปท.อาจไม่สามารถทำงานให้สำเร็จหรือสัมฤทธิ์ผลได้ก็ตาม แต่ก็น่าจะเป็นสะพานเชื่อมส่วนหนึ่งระหว่างการทำงานของคนที่เข้ามาใหม่กับเคยเป็น อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)และอดีตสปท.มาแล้ว
“ถ้ามองในแง่ดีอดีตสปท.ก็น่าจะสามารถเชื่อมกันในการทำงานเพื่อการปฏิรูปได้ และคิดว่าสิ่งที่ประชาชนอยากเห็นการปฏิรูป ซึ่งคงไม่ใช่เฉพาะเรื่องที่มีข้อเสนอที่สวยหรูเท่านั้น เพราะเราจะเห็นได้ว่าในช่วงที่มี สปช. และสปท. ที่มาผ่านมา ก็มีข้อเสนอมากมาย แต่ไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติ ดังนั้นเมื่อมีคณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 11 คณะ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และเป็นภาระสำคัญของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ตั้งคณะกรรมการ 11 คณะ นี้ขึ้นมาโดยการกลั่นกรองบุคคลที่คิดว่ามีความเหมาะสมแล้ว ก็อยากจะฝากให้รัฐบาลและคสช.นำข้อเสนอต่างๆ ซึ่งเกิดจาการทำงานของคณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 11 คณะ ไปสู่การปฏิบัติเพื่อเกิดผลที่เป็นจริง และทำให้ประชาชนเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ในแต่ละด้าน ที่เป็นผลสืบเนื่องจากคณะกรรมการปฏิรูปอย่างแท้จริง ตรงนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ” นายองอาจ กล่าว
เมื่อถามว่า รายชื่อส่วนใหญ่เป็นอดีตสปท. เหมือนเป็นการต่างตอบแทนกันหรือไม่ นายองอาจกล่าวว่า ไม่ได้ไปมองเรื่องการตอบแทนอะไร เราอยู่ในยุค คสช. เขาก็คงแต่งตั้งคนที่มีความใกล้ชิดเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ จึงไม่น่าเป็นปัญหาอุปสรรคอะไร จึงหวังว่าจะเห็นการปฏิรูปที่เป็นจริงมากว่าเป็นเอกสารหลายพันหน้าแล้วเก็บไว้บนหิ้ง
