คอลัมน์ เดือนหงายที่ชายโขง : เขมรพิพาทลาว มวยล้มจบในวันเดียว

ภาพจาก freshnewsasia.com

ในวันที่ 11 สิงหาคม 2017 ที่ผ่านมา เกิดข่าวใหญ่ขึ้นเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนตามแนวชายแดนลาว-กัมพูชา โดย สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเตโชฮุนเซน อ้างว่า ทหารลาว 30 นาย ข้ามแม่น้ำเซกอง รุกล้ำมาสกัดกั้นการก่อสร้างถนนตามแนวชายแดนของกัมพูชาในเขตเสียมแปง จังหวัดสตึงเตรง กัมพูชายกกองกำลังเข้าประชิดชายแดนห้ากองพัน และยื่นคำขาดต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวให้ถอนกำลังทหารออกอย่างทันทีภายในวันที่ 17 สิงหาคม มิฉะนั้นจะเข้าขับไล่ด้วยกำลัง

ฮุนเซน (ภาพจาก REUTERS)

สมเด็จฮุนเซนยังแถลงต่ออีกว่า ตนเองได้ส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยัง นายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิด ของ สปป.ลาวแล้ว ตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ จึงเป็นการล่วงล้ำอธิปไตยของกัมพูชาที่ยอมรับไม่ได้

หตุการณ์ดังกล่าวทำให้สื่อสังคมของทั้งสองประเทศ รวมถึงผู้ที่รับข่าวสารจากประเทศไทยตื่นตัวกัน สื่อบางสำนักถึงขั้นพาดหัวด่วนว่าปะทะกันแล้ว สำนักข่าวรัศมีกัมปูเจีย (รัศมีอังกอร์เดิม) และพนมเปญโพสต์ ตีข่าวเต็มที่ ทางเครือข่ายโทรทัศน์ TVBN ของกัมพูชาได้ถ่ายทอดการส่งกำลังพลพร้อมเครื่องยิงจรวด BM21 ประชิดแนวชายแดนเขมร-ลาว เต็มอัตรา 5,000 นาย ในขณะที่ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงโทละพาบแห่งซาดลาว กลับไม่มีความเคลื่อนไหว มีเพียงเพจเฟซบุ๊คสนับสนุนนายกฯทองลุน สีสุลิดเท่านั้นแจ้งกล่าวให้รับฟังแถลงของรัฐและรับรายงานจากในพื้นที่

จากนั้น มีรายงานว่า ทางกองทัพประชาชนลาว ได้เคลื่อนเอาปืนใหญ่อัตตาจรจากประเทศจีนที่เพิ่งเข้าประจำการมาใกล้พื้นที่พิพาทในเวลาค่ำ และแม้จะมีข่าวลือเรื่องการปะทะกันในสื่อสังคมต่างๆ แต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่ามีการใช้กำลังอาวุธเกิดขึ้นแต่อย่างใด

Advertisement
ทองลุน สีสุลิด

เช้าวันที่ 12 สิงหาคม สมเด็จฮุนเซนเดินทางด่วนด้วยเครื่องบินกัมพูชาอังกอร์แอร์ มาเยือนนครหลวงเวียงจันของสปป.ลาวเป็นการด่วน เพื่อเจรจาเรื่องปัญหาข้อพิพาทชายแดนครั้งนี้ และผลการเจรจาปรากฏว่า ทางกัมพูชาจะยกเลิกการสร้างถนน และถอนกำลังทหาร 5,000 นายออกไป เช่นเดียวกับทางลาวก็ถอนทหาร 30 นายออกจากพื้นที่พิพาทเช่นกัน

จากนั้นจะให้กรมพิธีการ กระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองผ่าย เจรจาปักปันเขตแดนอย่างเป็นทางการกันต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้สวมกอดกันอย่างชื่นมื่น ทำเอานักเลงคีย์บอร์ดที่ยุให้รบกันตกตะลึงหงายเงิบกันเป็นทิวแถว

คำตอบข้อสงสัยหนึ่งของนายกฯทองลุน แห่งลาว เกี่ยวกับข้อพิพาท คือ “ไม่ได้รับจดหมายแจ้งจากทางสมเด็จฮุนเซนเลย ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้รับข่าวกัน” เป็นคำตอบที่ผู้ฟังอย่างสมเด็จฮุนเซนได้ยิน คงหัวเราะมิได้ร่ำไห้มิออกจากกรณีที่ตนเองแข็งกร้าวเข้าใส่ในวันวาน แต่ฝั่งลาวทำไม่รู้ไม่ชี้เสียอย่างนั้น

Advertisement

สถานการณ์ทั้งหมดจึงคลี่คลายลงแบบมวยล้มต้มคนดูในเช้าวันที่ 13 สิงหาคม ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างถอนกำลังและกัมพูชาเลิกทำถนนจนกว่าคณะกรรมการปักปันเขตแดนจะเจรจากันเรียบร้อย

ข้อพิพาทนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า กัมพูชาใกล้จะเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไป ทำให้สมเด็จฮุนเซนต้องการใช้ไพ่ชาตินิยมเพื่อปลุกระดมความรักชาติของชาวเขมร ดึงความนิยมของตนและพรรคให้มากขึ้นเช่นเดียวกับที่เคยทำกับไทยมาแล้วในอดีต

ทั้งกรณีกบสุวนันท์ กรณีเขาพระวิหาร แต่ครั้งนี้กับลาว ลาวอาศัยความเงียบนิ่ง ไม่ตอบโต้รุนแรงทันที และไม่มีกลุ่มการเมืองภายในใช้เหตุการณ์ผสมโรงเรียกร้อง ทำให้เหตุที่อาจกลายเป็นวิกฤตสงบลงอย่างรวดเร็ว สร้างคะแนนนิยมให้กับรัฐบาลลาวได้อย่างยิ่ง

ในวิกฤตการณ์ระหว่างประเทศ การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของชาติ ไม่ฉวยใช้โจมตีเพื่อประโยชน์ของกลุ่มการเมืองของตนจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ข้อพิพาทลาว-เขมรครั้งนี้ เป็นบทเรียนที่ชวนให้คิดใคร่ครวญพิจารณาให้ดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image