⦁…เริ่มมีเสียงชี้แนะว่า หากอยากรู้ว่า “ประเทศจะเดินไปทางไหนให้ดูชื่อคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน” ที่ ครม.เพิ่งแต่งตั้งและประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเรียบร้อยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยเห็นชื่อก็จะเป็น “กรอบความคิด” ที่จะมากำหนดผลแนวทาง ความน่าสนใจอยู่ที่คำถามทำนองว่า “ความเป็นจริงของโลกที่ขับเคลื่อนดัวยทัศนคติของคนรุ่นใหม่” จะเสียดทานอย่างไรกับ “กรอบความคิดที่คร่ำครึ”
⦁…ที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์เห็นไปในทาง “คร่ำครึ” ด้วยรายชื่อที่ปรากฏนั้น ล้วนแล้วแต่ “คนหน้าเก่าๆ” ที่เข้าไปมีบทบาทซ้ำซากทุกครั้งที่โอกาสของ “นักการเมืองที่ระบบแต่งตั้ง” เฟื่องฟู คนเหล่านี้ก็เข้ามาทำหน้าที่กำหนดความเป็นไปของประเทศอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อเกิด “ความไม่ได้เรื่องได้ราว เสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์” กลับโทษ “นักการเมืองจากการเลือกตั้ง” จำนวนไม่น้อยเห็นบทบาทเข้มข้น คึกคัก ช่วง “การเมืองบนถนนไล่รัฐบาลจากการเลือกตั้งแรงๆ”
⦁…บันทึกไว้ ประธานปฏิรูป 11 ด้าน เอนก เหล่าธรรมทัศน์ การเมือง-กฤษฎา บุญราช การบริหารราชการแผ่นดิน-บวรศักดิ์ อุวรรณโณ กฎหมาย-อัชพร จารุจินดา กระบวนการยุติธรรม-ประสาร ไตรรัตน์วรกุล เศรษฐกิจ-รอยล จิตรดอน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-เสรี ตู้จินดา สาธารณสุข-จิรชัย มูลทองโร่ย สื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ-ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา สังคม-พรชัย รุจิประภา พลังงาน-ปานเทพ กล้าณรงค์ราญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
⦁…เพราะ “รัฐธรรมนูญ” และ “กฎหมายประกอบ” วางโครงบังคับไว้เข้มข้น แบบชัดเจนในทิศทางไปเรียบร้อย “ด้านการเมือง” ที่ “ดร.เอนก” นั่งหัวโต๊ะ (อีกแล้วครับท่าน) ที่ควรให้ความสำคัญ จึงลดความน่าสนใจลงไปเยอะ อย่างไรก็ตาม จะเป็น “ชุดล่อเป้า” ให้ “นักการเมืองจากการเลือกตั้ง” และ “ผู้เชื่อมั่นในประชาธิปไตยและอำนาจประชาชน” ให้ความสนใจจากเรื่องอื่น
⦁…อย่างไรก็ตาม “ธงปฏิรูปการเมือง” จะเป็นอย่างไร นักสังเกตการณ์ชี้แนะว่า ให้ดูผลของ “คดีรับจำนำข้าว” ว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะถูกตัดสินแบบไหน เพราะจะบอกว่า “การบริหารจัดการโครงสร้างอำนาจจะชัดเจนด้วยวิธีคิดแบบไหน” แม้ “ผู้มีอำนาจ” พยายามยืนยันว่า เรื่อง “คดี” ไม่เกี่ยวกับ “การเมือง”
⦁…ด้วยเอาเข้าจริง ชุดที่น่าใส่ใจที่สุดคือ “ด้านสาธารณสุข” เพราะไล่รายชื่อกรรมการแต่ละคนแล้ว แทบจะชัดเจนว่า โอกาสรื้อ “บัตรทอง หลักประกันสุขภาพ” ที่แปรรูปมาจาก “30 บาทรักษาทุกโรค” ด้วยบทบาทที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่ “ยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ของหมอ กับโรงพยาบาล” ด้วยเชื่อในทางที่ “ประชาชนต้องดูแลตัวเอง”
⦁…ข่าวที่นำเสนอกันในสื่อหลักช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นับวันจะเข้มข้นด้วย “คดีฆาตกรรมโหดเหี้ยม” ประเภท “ฆ่ายกครัว-ฆ่าแล้วเผา-อุ้มฆ่า” จึงน่าสนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับ “แรงกดดันในชีวิตของเพื่อนร่วมสังคมไทย” สมควรที่ทุกฝ่ายจะต้องหันมาใส่ใจ แม้ “ยังไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร” ก็ควรจะ “หยิบยกมาแลกเปลี่ยนให้กระจ่างในสาเหตุ” โดยเฉพาะด้วยงานที่เกี่ยวกับ “สุขภาพจิตประชาชน” ทั้งหลาย ควรจะถือเป็นภาระต้องหาทางเยียวยา
ชโลทร
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่