จากกรณี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. สนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยวและสน.โคกคราม จับกุมพล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. จ.อ.เสาวเดช ศักดิ์กิตตินันท์ จ.อ.อภิวัฒน์ ศรีนะพรม จ.อ.เทพพิทักษ์ รัดทะนี และ จ.อ.ทรงวุฒิ เที่ยงธรรม ทั้ง 4 นาย สังกัดกรมสารวัตรทหารเรือ นายโอภาส ศรียา และนายโก๊ะ เต๊ก ชวน ชาวสิงคโปร์ ร่วมกันก่อเหตุอุ้มนายสุรชัย แซ่ย่าง นักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน ไปรีดเงินค่าคุ้มครอง 20 ล้านบาท กระทั่งนำกำลังจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน ยังขาดอีก 2 คน คือ ส.อ.อุทิศ ก่อแก้ว หรือจ่ายักษ์ ทหารนอกราชการ อดีตสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย และนายฐิติกร ชื่นอุรา ลูกน้องจ่ายักษ์ หลบหนีลงภาคใต้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 15 ส.ค ที่สน.โคกคราม นายฐิติกร ชื่นอุรา หรือจ่าต้อย อายุ 38 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ เดินทางเข้ามอบตัวกับพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิติธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.กองบังคับการสายตรวจ พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส. ฝ่ายสืบสวน สน.โคกครามและตำรวจ บก.สปพ.
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้นายฐิติกร ประสานเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตนเอง ส่วนการแจ้งข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร นั้นคาดว่าจะแจ้งได้ภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งก็อยู่ที่ทางพนักงานสอบสวนจะยื่นต่อศาลเพื่อให้พิจารณา ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าพล.ต.จรูญปล่อยกู้เงินนอกระบบย่านดอนเมืองนั้น จากการตรวจยังไม่พบข้อมูลดังกล่าว
ผบก.สปพ. กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอศาลออกหมายจับ นายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ อีก 1 หมาย ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ จ.548/2560 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2560 ซึ่งต่างกรรมต่างวาระ เนื่องจากเมื่อต้นเดือนเมษายน 2559 หลอกลวงนางหลินเซี่ย ชิน อายุ 33 ปี ชาวจีน ว่าสามารถทำบัตรประชาชนให้เป็นคนไทยในราคา 7.5 แสนบาท เมื่อนางหลิน เซี่ย ชิน จ่ายเงินนายโก๊ะ เต็ก ชวน กลับเชิดเงินหนีหายไปกระทั่งมาโดนจับกุมได้ อย่างไรก็ตามจะต้องติดตามตัวนายโก๊ะ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน นายฐิติกร เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายอุทิศประมาณ 1-2 เดือน จากนั้นนายอุทิศชักชวนโดยการว่าจ้างให้ไปที่บริษัทของนักธุรกิจคนดังกล่าวจริง เพื่ออารักขาคนของนายอุทิศที่จะไปรับนักธุรกิจชาวจีนเพื่อไปพบกับพล.ต.จรูญ ที่โรงเรียนย่านดอนเมือง ตนซึ่งเคยเป็นทหาร พล.ร.9 และรับงานอารักขา กับพวกรวม 5 คน จึงรับงาน โดยมีตนเองเป็นหัวหน้าทีม ได้เงินค่าจ้าง 2,000 บาท ลูกน้องได้คนละ 1,500 บาท แต่ตนเองกับพวกทำหน้าที่เดินตามและอารักขาเพียงอย่างเดียว ไม่ทราบเรื่องที่คนของนายอุทิศเข้าไปคุยกับคนจีนภายในห้อง และตลอดทางก็พูดคุยเป็นภาษาจีน
ซึ่งตนเองไม่เข้าใจ จึงไม่ทราบว่าเป็นการอุ้มรีดทรัพย์ หลังจากเสร็จงานรับเงินแล้ว ตนเองก็เดินทางไปงานศพของญาติที่หาดใหญ่ ไม่นานก็ทราบว่าลูกน้องของตนเองมีปัญหา จึงโทรศัพท์ไปขอให้นายอุทิศช่วยเคลียร์ให้ ติดต่อได้อยู่เพียง 2 ครั้ง แล้วต่อมาก็ติดต่อไม่ได้อีก จนกระทั่งตนเองทราบผ่านทางสื่อโซเชียลว่าถูกออกหมายจับ จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนผู้ต้องหาใส่หมวกสีเขียวที่ถูกออกหมายจับเมื่อวานนี้ ทราบว่าชื่อเสี่ยหนุ่ม เป็นคนของจ่ายักษ์
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายฐิติกร ชื่นอุรา ผู้ต้องหาที่มอบตัว เวลาไปรับงานจะอ้างตนเองว่าเป็น สห.นอกราชการ และรับงานอารักขาทั่วไป อาทิ คอนเสิร์ต งานวัด ต่างๆ โดยในวันที่ 16 สิงหาคม เวลา 10.00 น. นายอุทิศ ก่อแก้ว หรือ จ่ายักษ์ ผู้ต้องหาที่เหลือ จะเข้ามอบตัวที่สน.โคกคราม ส่วนชายที่ใส่หมวกแก๊ป หรือเสี่ยหนุ่ม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัว
นอกจากนี้ เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 16 ส.ค. เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.1 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม และตำรวจสายตรวจ บก.สปพ. ร่วมกันทำการจับกุมนายอุทิศ ก่อแก้ว หรือ จ่ายักษ์ อายุ 49 ปี ได้ที่ห้องพัก ภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่าน จ.ปทุมธานี ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมจะหลบหนี
