พี่น้องชนเผ่าซาไก “ตระกูลศรีลิพัง” กว่า 30 ชีวิต เริ่มขาดอาหารลงมาจากหมู่บ้านบนภูเขาหาซื้ออาหารกักตุน หลังจากสะพานถูกน้ำป่าซัดตัดขาดจากโลกภายนอก 2 วัน ปภ.สรุปสถานการณ์ล่าสุดส่งผลกระทบ 6 อำเภอ 19 ตำบล 73 หมู่บ้าน 839 ครัวเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง นายประจักษ์ ปิยะวงศ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 บ้านเขาติง ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่มาแล้ว 3 รอบในเดือนนี้ กระแสน้ำซัดสะพานในหมู่บ้านขาดสะบั้นส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 20 ครัวเรือนนักเรียนไม่สามารถเดินทางไปโรงเรียนไม่ได้เมื่อวานนี้ และอีกทั้งมีดินสไลด์ต้นไม้ใหญ่ล้มปิดทับเส้นทางหลายจุดในขณะที่บ้านอีกหลังตั้งอยู่ริมคลองดินทรุดตัวเข้าถึงตัวของบ้านหวั่นบ้านพังทรุดตัวลงมา ล่าสุดสถานการณ์น้ำโดยรวมเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติหากฝนไม่ตกลงมาซ้ำอีก
ผู้ใหญ่ประจักษ์ กล่าวด้วยว่า ช่วงบ่ายวันนี้ พี่น้องชนเผ่าซาไก “ตระกูลศรีลิพัง” กว่า 30 ชีวิต มายืนออกกันอยู่เต็มตรงหัวสะพานคลองลิพัง ม.5 บ้านห้วยไทร-ท่าเขา มีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีชนเผ่าซาไก เริ่มขาดอาหารลงมาจากหมู่บ้านบนภูเขาหาซื้ออาการกักตุน หลังสะพานถูกตัดขาดไม่สามารถออกมาซื้ออาหาร ข้าวสาร และสิ่งของที่จำเป็นได้ ปกติซาไกจะซื้อจากร้านค้าแต่ละครั้งแค่พอกิน ขณะที่ผู้นำท้องถิ่นได้เจรจาขอเดินผ่านทางภาคเอกชนชั่วคราว ก่อนที่จะประสานความร่วมมือกับทาง อบต.ลิพังเพื่อหาทางแก้ปัญหาซ่อมแซมสะพาน
ขณะที่ นางกุลธารินทร์ โรจนสุรสีห์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง เปิดเผยว่า อุทกภัยน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ จ.ตรัง ส่งผลกระทบ 6 อำเภอ 19 ตำบล 73 หมู่บ้าน 839 ครัวเรือน มีผู้ประสบภัย 2,736 คน สถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ พื้นที่ ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน เจอหนักสุด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้สั่งการให้นายอำเภอ และท้องถิ่นเฝ้าระวังเนื่องจากยังมีการแจ้งเตือนฝนตกหนักถึงวันที่ 20 สิงหาคม นี้ ซึ่งทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือไปยังอำเภอที่ยังขาดอยู่ ตลอด 24 ชั่วโมง
