พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยกรณีคนร้ายก่อเหตุปล้นรถที่เต๊นท์รถ วังโต้ คาร์เซ็นต์เตอร์ อ.นาทวี จ.สงขลา นำรถกระบะหลบไปได้จำนวนหนึ่ง ว่า ได้สั่งการให้ทุก สภ.รวบรวมข้อมูลรถยนต์ที่ถูกปล้นดังกล่าว และให้ดำเนินการตรวจสอบรถยนต์ในกลุ่มที่ต้องสงสัยดังกล่าวที่อาจผ่านขึ้นมาในพื้นที่ โดยเฉพาะด่านตรวจความมั่นคงให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งรูปพรรณบุคคลและรถยนต์ทั้งหมด
พ.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รอง ผบ.บก.ควบคุม พล.ร.5 หัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า กล่าวว่าได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านความมั่นคง ที่ประจำอยู่บนถนนทางหลวงเอเชียสาย 41 และถนนสายหลักที่ผ่านไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ให้ตรวจเข้มมากขึ้นประกอบด้วย ด่านความมั่นคงป่าพะยอม จ.พัทลุง ด่านความมั่นคงดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ด่านความมั่นคง จ.ภูเก็ต และด่านความมั่นคงพละ จ.ชุมพร ซึ่งหากมีเหตุหรือพบสิ่งปกติสามารถประสานขอกำลังจากฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กำชับหน่วยกำลังในพื้นที่ทั้งพลเรือนตำรวจ ทหาร ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ในพื้นที่และเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนเพื่อป้องกัน ปราบปรามการก่อการร้าย รวมทั้งประเมินพื้นที่ที่มีความเสี่ยง และอาจตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่ประสงค์ดี โดยให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดโดยเฉพาะในพื้นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ สถานที่ที่มีคนมาชุมนุมเป็นจำนวนมาก เช่น สถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ย่านการค้าหรือศาสนสถานที่สำคัญ
ข่าวแจ้งว่า ล่าสุดหน่วยความมั่นคงได้แจ้งไปยังทุกหน่วยว่า รถยนต์ที่ถูกปล้นไป 5 คัน จาก อ.นาทวี จ.สงขลา และไประเบิดที่ จ.ปัตตานี แล้ว 1 คัน ยังคงเหลืออีก 1 คัน ที่ยังไม่พบเป็นรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บห.5714 สงขลา คาดว่ารับระเบิดเรียบร้อยแล้ว กำลังเข้าสู่ที่หมายขอให้ช่วยกันตรวจสอบ
