ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดวังวรดิศ ถนนหลานหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย วังซึ่งเคยเป็นที่ประทับตราบจนสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์พระบิดาประวัติศาสตร์และโบราณคดี องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย และองค์ผู้อำนวยการก่อตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4 ในการต้อนรับคณาจารย์และคณะนิสิต ชั้นปีที่ 4 ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงธนินี สหกิจรุ่งเรือง และผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ธวัชชัย ดีขจรเดช เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม
ม.ล.ปนัดดา กล่าวยินดีที่ได้ต้อนรับคณาจารย์และนิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยกล่าวชื่นชมที่คณะนิสิตให้ความสำคัญในการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ ช่วยกันทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมนอกชั่วโมงเรียนปกติ นอกจากนั้น ยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจส่งเสริมสนับสนุนให้นิสิตแพทย์ แพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด และบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ยึดหลักศีลธรรมจรรยา อีกทั้งสามารถสืบสานศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของแผ่นดินไทยให้ดำรงอยู่และยั่งยืนสืบไป
ม.ล.ปนัดดาเล่าแก่คณาจารย์และนิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ว่า คณาจารย์และนักศึกษาแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้มาศึกษาดูงานเมื่อครั้งที่บิดาของตนยังมีชีวิตอยู่ ได้เคยตั้งคำถามว่า เจ้าจอมมารดาชุ่มในรัชกาลที่ 4 มีวิธีการเลี้ยงพระโอรสโทน (บุตรคนเดียว) คือ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพอย่างไร ให้เป็นลูกที่ดีงาม ประสบความสำเร็จในชีวิต จนกระทั่งทรงได้รับการประกาศเกียรติคุณจากองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติให้เป็น ‘บุคคลสำคัญของโลกซึ่งเป็นคนไทยคนแรก’ บิดาของตน ยังไม่ทันได้ตอบในขณะที่กำลังเดินผ่านตู้ไม้สูญญากาศที่เก็บรักษามุ้งตราพริกไทย บนชั้นสองของวังวรดิศ ซึ่งปัจจุบันมีอายุกว่า 150 ปี และเล่าว่าในทุกๆ เช้าก่อนเสด็จไปทรงงาน สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จะต้องเข้าไปทรงเยี่ยมเจ้าจอมมารดาเป็นประจำ ทั้งบีบนวดและตำหมากให้กับเจ้าจอมมารดา แต่เมื่อใดที่ต้องเสด็จไปทรงตรวจราชการหัวเมืองหลายวัน เจ้าจอมมารดามีความรักคิดถึง ก็จะได้นำมุ้งตราพริกไทยหลังเล็กๆ ที่ใช้ตั้งแต่พระโอรสแรกประสูติมากอดมาหอมเพื่อคลายความคิดถึงพระโอรส คณะแพทย์จึงกล่าวกับหม่อมราชวงศ์สังขดิศ บิดาของตน ว่า “คงไม่รบกวนเรียนถามคำถามเมื่อสักครู่แล้ว เพราะที่คุณชายเพิ่งเล่ามาถือเป็นคำตอบที่อธิบายได้ทั้งสิ้น และคณะแพทย์พร้อมนักศึกษาแพทย์จะได้นำไปเป็นกรณีศึกษาถึงเรื่องการอบรมเลี้ยงดูลูกตั้งแต่ปฐมวัยว่ามีความสำคัญเพียงใด เพื่อให้เกิดคุณภาพและมีความสุขภายในครอบครัว”
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่โครงการโรงเรียนและสถานศึกษาคุณธรรม สืบสานพระราชปณิธาน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามพระราชดำริในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้รับความสมัครสมานพร้อมใจกันขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จโดยสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งในสังกัดภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ และจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในวันนี้
