ดูเหมือนว่าอะไรก็ตามที่มีชื่อ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ เข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องได้รับความสนใจ ทั้งในส่วนของงานและชีวิตส่วนตัว
โดยกับงานล่าสุด ละคร ‘เพลิงบุญ’ ทางช่อง 3 ที่เจ้าตัวรับบท ‘ใจเริง’ ซึ่งใครก็กล่าวขวัญถึง
เกี่ยวกับเรื่องนี้เจนี่บอกว่า
“จริงๆแล้วละครทุกเรื่อง เจนตั้งใจเล่น และก็ให้หัวใจกับการเล่น แต่ละครเรื่องนี้เป็นละครที่เจนใส่ความรู้สึกที่เป็นรายละเอียดของตัวละครจริงๆ เจนอินกับบทของใจเริงมาก อยากถ่ายทอดอารมณ์บางอารมณ์ที่คนดูอาจจะไม่เคยเห็น และไม่เคยเห็นเจนเล่นบทนี้ อยากให้ได้ดูอะไรที่เป็นอีกคาแร็คเตอร์หนึ่ง”
ซึ่งผลตอบรับจากคนส่วนใหญ่ก็ดูจะชอบ
“บางคนอาจคิดว่า ทำไมเป็นละครที่แรงจัง แซ่บ หรือพร้อมที่จะว่าใจเริง แต่จริงๆเจนอยากให้มองอีกมุมด้วย เพราะเป็นละครที่สอนคน และมีแง่คิดในทุกตอนที่ออนไป ไม่ได้มีแค่ความแรงอย่างเดียว”
เล่าด้วยว่าเนื้อหาของเรื่องที่ออกอากาศไปแล้วนั้น เป็นแค่ ‘การเรียกน้ำย่อย’ และต่อไปจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
“วันนี้ คืนนี้เป็นอาหารจานหลัก แล้วเดี๋ยวก็จะต่อด้วยของหวาน คือมันเป็นสเต็ปค่ะ ไม่อยากใช้คำว่าแรง เพราะว่าเรื่องเพลิงบุญมันแรงอยู่แล้ว”
ส่วนกับบท ‘ใจเริง’ นั้นเจนี่บอกว่า เธอทำใจไว้แล้วว่าคนน่าจะเกลียด
“คนเกลียดอยู่แล้วด้วยความที่เป็นใจเริง พอออกมาปั๊บ เดินก้าวเข้าฉากปั๊บ คนก็แบบ…ใจเริงมาอีกแล้ว”
แต่กระนั้นในฐานะคนเล่น เธอก็ว่า
“ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่กลม คือเขาเป็นคน เจนก็เล่นเป็นเรียลลิสติกจริงๆ”
“คนจะถามว่า มีคนที่เป็นแบบนี้อยู่บนโลกจริงๆเหรอ…มีค่ะ”
“เจนไม่ได้เล่นเป็นตัวละครที่ร้ายอย่างเดียว เจนเล่นเป็นความรู้สึกของคน คือไม่สามารถเล่าอะไรได้มากตอนนี้ เดี๋ยวตอนจบทุกคนจะรู้เอง ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุและผล”
เล่าด้วยว่าตอนที่อ่านบทเรื่องนี้เธอถึงกับร้องไห้
“ตอนที่อ่านจนถึงสุดท้าย เจนอ่านต่อไม่ได้ เพราะมันจับจิตจับใจ มันมีมิติของตัวใจเริงอยู่ และเป็นมิติที่เจนคาดไม่ถึง และมั่นใจว่าคนอื่นก็คาดไม่ถึง”
ส่วนดราม่าเรื่องเพลงประกอบละคร ที่ตอนแรกผู้จัดวางตัวให้เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม ร้อง ก่อนจะถอดเพลงนี้ออก พร้อมกับมีข่าวลือวาเจนี่เป็นผู้สั่ง เธอก็ยืนยันเหมือนที่ผู้จัดออกมาให้ข่าวแล้วว่าเรื่องนี้เจนี่ไม่เกี่ยวข้อง
โดยเจนี่ออกตัวมาเป็นลำดับต้นว่า
“ขออนุญาตไม่เอาใครเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะเจนก็เป็นแค่ลูกจ้าง มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการเล่นละคร ก็บอกได้แค่ว่าเจนไม่สามารถ และไม่มีอำนาจที่จะสั่งใคร หรือบอกใครว่าห้ามอันนู้น ห้ามอันนี้ เพราะตัวเองตอนเอ็นฉีก ฉีกวันนี้ พรุ่งนี้ยังต้องไปถ่ายละครเลย ถามว่าเจนี่อยากจะยกกองได้ไหม มันก็ทำได้ แต่เจนไม่ทำ เพราะเจนมีความรู้สึกว่าเจนเป็นแค่คนๆนึง มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในหน้าที่การงานที่เราต้องทำ”
“คือเอาจริงๆ เจนเล่นละครเรื่องนี้เจนต้องโดนว่าอยู่แล้ว ต้องโดนด่าอยู่แล้ว เจนทำอะไรก็ผิด คนก็อคติ พร้อมที่จะแอนตี้ แล้วก็ว่าอยู่แล้ว เพราะงั้นเจนจะฆ่าตัวเองอีกทำไมคะ”
อย่างไรก็ดีสำหรับที่ปักใจเชื่อ เจนี่บอกไม่เป็นไร
“อะไรๆ ก็เป็นเจนอ่ะค่ะ แต่ในเมื่อทุกคนสบายใจที่จะว่า อยากจะให้เจนผิด อยากจะอคติกับเจน แล้วมันเป็นความบันเทิง เป็นความสบายใจของใครหลายๆ คน เจนไม่เป็นไรนะ จริงๆ”
ส่วนเมื่อถามว่าพอเป็นอย่างนี้ รู้สึกเสียใจไหม นางเอกคนดังก็บอก”เราลองกลับกันบ้าง”
“คนอื่นๆที่ว่าเจน แล้วมาเป็นแบบเจนจะรู้สึกอย่างไร นึกออกหรือเปล่า แค่เจนรับบทใจเริง คนก็พร้อมที่จะทับถม ว่าเล่นเป็นตัวเองเลยเล่นดี อย่างนั้นอย่างนี้ แต่จะมีใครที่มองในบทบาทของเราจริงๆ ในหน้าที่การงานของเราจริงๆ”
และเมื่อถามถึงความรู้สึกเกี่ยวกับดราม่าที่เกิดขึ้น เธอก็บอกตรงๆ
“เจ็บนะ แต่ต้องทน”
ส่วนที่มีข่าวเรื่องที่ผู้จัดคือจ๋า ยศสินี ณ นคร มาขอโทษ เจนี่ก็บอกไม่ขอเอ่ยถึง
“เจนไม่ขอเอ่ยอะไรถึงตรงนั้นเนอะ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ไม่อยากเอ่ยถึงผู้ใหญ่และใครอีกหลายๆ คน ไม่อยากให้ใครต้องมาเกี่ยวข้อง ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดแค่เจน จะว่า จะอะไรยังไงเจนก็สามารถเป็นกำแพงตั้งอยู่ตรงนี้ อยากจะด่า อยากจะว่าอะไร มันโดนจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”
ส่วนกับคนที่ไม่ชอบ หรืออาจจะมีอคติต่อเธอ เจนี่ก็บอก
“คนคิดอยากจะอคติ ก็อคติ สิ่งที่เจนทำได้ดีที่สุด คือรับผิดชอบการงานของเจนให้เต็มที่”
และสำหรับเรื่องที่ยังมีคนขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ เจ้าตัวก็บอก “ทำใจมาแล้วในระดับหนึ่ง”
“เจนก็มีคนที่รัก แล้วก็มีคนที่เขารักและแคร์เจน ฉะนั้นเจนขอโฟกัสคนเหล่านี้ดีกว่า ทุกวันนี้ที่ทำงานเพื่อคนที่รักเราจริง และอยากดูเรา เราอย่าไปคิดอะไรที่เป็นแง่ลบ คิดอะไรที่มันดีไว้ นั่นแหละคือกำลังใจของเรา”
ซึ่ง “ถึงแม้จะมีแค่หนึ่ง แต่ก็เป็นหนึ่งที่มีความหมายกับเจน”
