กรมประชาฯขอความร่วมมือสื่อทีวีเกาะติดทำสกู๊ปรมต. “ไก่อู” ยันไม่ใช่การจัดระเบียบ ทำเพื่อปชช. ให้มีความหลากหลาย ไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องของนายกฯ ระบุไม่บังคับสื่อ เลือกรมต.ได้เองตามใจชอบ แต่ต้องไม่ซ้ำกัน เพื่อทำรายงานพิเศษออกช่อง NBT
กรณีการหารือกับตัวแทนสื่อสถานีโทรทัศน์ทุกช่องในการทำความเข้าใจในการลงพื้นที่ทำข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัญจร ที่ จ.นครราชสีมานั้น โดยมีสื่อมวลชนบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการพยายามแทรกแซงการทำงานของสื่อหรือไม่ หลังมีการจัดตารางให้สื่อมวลชนแต่ละช่องติดตามผลงานและทำรายงานพิเศษรัฐมนตรีแต่ละคน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั้น
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ชี้แจงเรื่องดังกล่าวโดยระบุว่า ไม่ใช่เป็นการจัดระเบียบสื่อ แต่เป็นการเชิญเขามาเพื่อทำความเข้าใจและขอความร่วมมือในการทำรายงานสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับรัฐมนตรีที่ลงไปในพื้นที่ด้วย เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีประชุม ครม.นอกพื้นที่ก็จะมีแต่ข่าวของนายกรัฐมนตรี แต่ที่จริงแล้วยังมีรัฐมนตรีคนอื่นๆ อีกที่ร่วมลงพื้นที่ ซึ่งรัฐมนตรีเหล่านี้จะได้ไปสัมผัสพื้นที่จริงว่านโยบายที่รัฐบาลทำลงไปนั้นมีปัญหาอุปสรรคอะไร รัฐมนตรีจะได้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาให้ ดังนั้น เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารเรื่องต่างๆ ของรัฐมนตรีได้ถึงประชาชนในสังคมให้มากที่สุดและรอบด้าน จึงได้ขอความร่วมมือ ถามว่าใครช่องไหนสนใจรัฐมนตรีท่านไหน ก็ให้เลือกได้ตามใจชอบ ตามที่สื่อช่องนั้นต้องการ
“ผมไม่ได้บังคับ ผมให้เลือกตามใจชอบเลย แต่ต้องไม่ซ้ำกันในแต่ละช่อง บางช่องบอกให้ผมเลือกให้ด้วยซ้ำ แต่ผมไม่ได้เลือกให้ เพราะรู้ว่าคาแร็กเตอร์ความสนใจของแต่ละช่องไม่เหมือนกัน เท่าที่เห็นแต่ละช่องก็เลือกกันหมดแล้ว” พล.ท.สรรเสริญกล่าว
เมื่อถามว่า หากมีบางช่องไม่ทำ ไม่เลือกตามรัฐมนตรี พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ผมบอกแล้วว่าไม่ได้บังคับ แต่สื่อที่ตามลงไปทำข่าว ก็ต้องทำข่าวของท่านอยู่แล้ว เพียงแต่ขอว่า ให้ส่งสิ่งที่ท่านทำให้กับเราด้วย เพื่อที่จะได้ออกอากาศทางช่องเอ็นบีที ที่สำคัญรายงานที่จะออกทางช่องเอ็นบีทีนั้นไม่ได้บังคับอะไรเลย ท่านจะทำเรื่องไหน อย่างไร เป็นไอเดียของท่านเลย แล้วให้ใช้ไมค์ของสถานีช่องนั้นๆ ได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าต้องไม่มีสัญลักษณ์หรือโลโก้สถานี
พล.ท.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ที่ทำอย่างนี้ก็เพราะความพยายามที่จะแก้ปัญหา เพราะที่ผ่านมาเมื่อลงพื้นที่ก็จะมีแต่ข่าวของนายกรัฐมนตรี ประชาชนจะรู้แต่เรื่องของนายกฯ ที่ขอความร่วมมืออย่างนี้ก็เพื่อความหลากหลายในการนำเสนอเนื้อหาการประชุม ครม. ที่ไม่ใช่มีเฉพาะเรื่องนายกฯ และที่ต้องขอความร่วมมืออย่างนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเราไม่มีทีมข่าวที่เพียงพอ ยืนยันว่าผมมีทีมข่าวของกรมประชาสัมพันธ์เพียงพอ และเตรียมไว้แล้วเช่นกัน แต่ต้องการให้เกิดความหลากหลายในการนำเสนอ ไม่ใช่เฉพาะในมุมสื่อของรัฐเพียงอย่างเดียว เราให้อิสระในการคิดนำเสนอประเด็น เพียงแต่ขอให้ท่านส่งมาให้เราด้วยเพื่อที่เราจะช่วยเผยแพร่ทางช่องเอ็นบีที เป็นความต้องการที่แท้จริง
“การรายงานเรื่องของรัฐมนตรีแต่ละคน แต่ละช่องรายงานได้ตามสบาย ตามสไตล์ ผมอยากให้ประชาชนที่ดูช่องสื่อของรัฐ ได้รับรู้ว่าสื่อเอกชนเขานำเสนออย่างไร เราเป็นเพียงตัวกลางช่วยเผยแพร่ให้ความหลากหลายแก่ประชาชน ไม่ใช่เป็นการจัดระเบียบสื่ออย่างที่มีการวิจารณ์กัน” พล.ท.สรรเสริญกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลเรื่องนี้ว่า เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม กรมประชาสัมพันธ์ ได้ทำหนังสือเชิญถึงบรรณาธิการสื่อมวลชนทุกแขนง ไปประชุมพร้อมกันที่อาคารหอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ โดยมี พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานการประชุม เพื่อขอความร่วมมือการนำเสนอข่าวการประชุม คณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ณ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม
ทั้งนี้ในบรรยากาศการประชุมดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ได้แจกวาระการประชุม เตรียมการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นทางการ นอกสถานที่ (ครม.ภูมิภาค) โดยในเอกสาร ได้สรุปพื้นที่ ดูแลงานของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเอาไว้ทุกกระทรวง เพื่อให้สื่อจัดเตรียมทีมข่าวติดตามการทำภารกิจของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง โดยอ้างว่าไม่ต้องการให้สื่อติดตามแต่ภารกิจของนายกรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว
ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ ได้ชี้แจงถึงความสำคัญของการจัด ครม.สัญจร ที่ จ.นครราชสีมาว่า ถือเป็นพื้นที่ประชาชนมีรายได้น้อยกว่าภูมิภาคอื่น ซึ่งการลงพื้นที่ของ ครม. จะเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ได้ในระดับหนึ่ง และได้ขอให้สื่อในที่ประชุมตัดสินใจทันทีว่า จะเลือกติดตามภารกิจการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีกระทรวงไหน เพื่อผลิตเป็นรายงานหรือ สกู๊ปข่าว ส่งมายังสถานีโทรทัศน์ NBT ก่อนที่จะเผยแพร่ ในวันประชุม ครม. ซึ่งในวันนั้น NBT จะมีรายการพิเศษในแต่ละช่วง
นอกจากนี้ พล.ท.สรรเสริญ ยังให้เหตุผลถึงการขอความร่วมมือสื่อด้วยว่า ต้องการให้สื่อบูรณาการในการนำเสนอข่าวให้ประชาชนเห็นว่า การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี มีการติดตามเนื้องานในส่วนใดบ้างขณะที่ตัวแทนสื่อแต่ละสำนักที่เข้าร่วมประชุม ต่างมีสีหน้ามึนงง บางสำนัก ต้องขอปรึกษาหัวหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ขณะที่บางสำนักสามารถตัดสินใจเลือกได้ทันที
อย่างไรก็ตาม พล.ท.สรรเสริญ ยังได้ทำหนังสือถึงปลัด กระทรวง อธิบดี และโฆษกกระทรวง ระบุว่า นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดที่จะให้มีการเผยแพร่ข่าวอย่างต่อเนื่อง ในการนี้ทางสำนักโฆษก ได้ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ ประสานความร่วมมือไปยังสื่อโทรทัศน์สถานีช่องต่างๆ ติดตามรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเพื่อจัดทำสกู๊ปข่าว นำมาออกอากาศทางสถานี NBT แบบบูรณาการ และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอความกรุณานำเรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรับทราบด้วย และขอให้อำนวยความสะดวกที่การติดตามทำข่าวของสื่อมวลชนในครั้งนี้