เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นายสุริยาวุธ สร้อยสวิง หัวหน้าองค์กรสิทธิชุมชนพะเยา เปิดเผยว่าทางองค์กรได้ส่งรายชื่อผ่านนายอำเภอในพื้นที่พะเยา 2 อำเภอคือ อ.เชียงคำ อ.ภูซาง และผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับหนังสือที่เป็นเอกสารสิทธิ อย่างเป็นทางการที่เข้ามาอาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย หรือเป็นคนที่ไร้รัฐ,ไร้สัญชาติ ที่อพยพเข้ามาอาศัยในประเทศไทย หรือในสมัยเกาะกงประเทศพม่า หรือเมื่อครั้งที่ประเทศไทยเสียดินแดนครั้งที่ 11 ในรัชกาลที่ 5 และบุคคลกลุ่มนี้ทั้งหญิงและชาย ถือว่ามีสิทธิเป็นคนไทยโดยปริยาย เพราะปู่,ย่า,ตา-ยาย เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยกว่า 100 ปี สมัยสงครามโลก
นายสุริยาวุธกล่าวอีกว่า ตามข้อมูลเดิมของผู้อพยพที่เข้ามาในประเทศไทย ทางภาคเหนือตอนบนเมื่อก่อนปี 2534-2535 หรือที่เรียกกันว่าชาติพันธุ์ชนเผ่า 4-5 ภาษา ในพะเยากว่า 1,600 คน และอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.ปง 400 คน อ.ภูซาง 300 คน และ อ.เชียงคำ 600 คน นอกนั้นกระจายอาศัยอยู่ในแต่ละพื้นที่ของพะเยารวม 68 ตำบล 9 อำเภอ และวันนี้ได้ยื่นเอกสารรายชื่อขอพิสูจน์ ความเป็นคนไทยพลัดถิ่นไร้รัฐ,ไร้สัญชาติ 2 อำเภอคือ อ.ภูซาง 43 คน อ.เชียงคำ 38 คน รวมทั้งหมดจำนวน 81 คน บุคคลกลุ่มนี้เป็นชนเผ่าเย้า,เมี่ยน,อีก้อ,ลั่วและลื้อ ที่อพยพมาจากเมืองคอบ, แขวงไชยะบุลีประเทศลาว รวมไปถึงชาวไตลื้อที่อพยพมาจากมณฑลยูนานแค้วนสิบสองปันนา ประเทศจีนตอนใต้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.สัญชาติฉบับที่ 5
