แม้ว่าจีนจะมีชื่อเสียงที่ไม่ดีนักในฐานะ “นักก๊อบปี้ระดับโลก” ทว่าล่าสุดจีนกำลังหัวเสียสุดๆ กับการกล่าวหาว่าต่างชาติก๊อบปี้และขโมยเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของประเทศ
จีนเป็นผุ้นำระดับโลกในด้านรถไฟความเร็วสูง ด้วยจำนวนรางความยาว 20,000 กิโลเมตร ขณะที่รถไฟสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทว่าล่าสุดเว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ รายงานเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า อ้าง บทบรรณาธิการ เผยแพร่ผ่านโปรคิเรทอเรียลเดลี ระบุว่า เวลานี้ต่างชาติกำลังหาประโยชน์จากความสำเร็จของจีน ด้วยการใช้ข้อได้เปรียบจากประวัติการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่ย่ำแย่ในจีน
บทบรรณาธิการดังกล่าวระบุว่าหลังจีนใช้เวลาหลายปีพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง เวลานี้จีนส่งออกเทคโนโลยีไปยังต่างประเทศทำให้บริษัทต่างชาติลอกเลียนเทคโนโลยี และจดสิทธิบัตรไปเป็นของตัวเอง
บทความดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลจีนควรเน้นย้ำไปที่การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้มากขึ้นกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยบทความดังกล่าวมีขึ้น 2 วันหลังโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้มีการสืบสวนการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของจีน
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า จีนเริ่มต้นเรียนรู้เทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงจากบริษัทต่างชาติอย่างญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส นับตั้งแต่ช่วงปี 2543 โดยบริษัทต่างชาติเหล่านี้ได้ลงนามร่วมทุนกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่ในจีน อย่างไรก็ตาม วิศวกรชาวจีนก็เริ่มต้นเรียนรู้ความลับทางเทคโนโลยีจากบริษัทต่างชาติ ก่อนที่บริษัทเหล่านี้จะค่อยๆ ถูกบริษัทจีนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลผลักดันออกจากตลาดในประเทศไป
