พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯได้หารือแพ็คเกจฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำท่วมปี 2560 ในภาคอีสาน โดยแพ็คเก็จที่มีการเสนอเข้ามาเพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีทั้งหมด 5 แพ็คเกจ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเลือกแพ็คเกจใด เพราะการช่วยเหลือเบื้องต้น แบบเร่งด่วนกระทรวงเกษตรดำเนินการไปแล้วคือจ่าย 3,000 บาท/ครัวเรือน ดังนั้นหลังจากน้ำลด จะต้องเป็นแพ็คเกจเพื่อการฟื้นฟูอาชีพและรายได้เกษตรกร
แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า แพ็คเกจการฟื้นฟูเกษตรกรภาคอีสานหลังน้ำลดลง ได้มีการหารือสรุปได้ 5 แพ็คเกจ แต่ในที่ประชุม พล.อ.ฉัตรชัย ยังไม่เลือกแพ็คเกจใด และยังไม่พอใจเพราะหลายแพ็คเกจเป็นเรื่องเดิมที่ดำเนินการอยู่แล้ว คือ 1.การช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิต ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ โดยกรมปศุสัตว์ จะสนับสนุนพันธุ์สัตว์ปีก โค กระบือ กรมประมงสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำ กรมวิชาการเกษตร สนับสนุนพันธุ์ผัก พืชไร่ กรมการข้าว สนับสนุนพันธุ์ข้าว ซึ่งในแพ็คเกจนี้เป็นเรื่องที่กรมต่างๆต้องดำเนินการ ถือเป็นงานปกติของกระทรวงเกษตรอยู่แล้ว
2.โครงการปลูกพืชระยะสั้น เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่พืชผลได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม ในระยะเวลา 3-4 เดือนที่ไม่สามารถทำนาได้ เบื้องต้นคาดว่าจะเสียหายประมาณ 3 ล้านไร่ มีเกษตรกร ซึ่งจำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อให้เกษตรกร หรือชาวนาได้เริ่มการทำอาชีพเสริม ต้องใช้เงินสำหรับดำเนินการประมาณ 2-3 พันล้านบาท สำหรับจ่ายเงินให้เกษตรกร 3,000-4,000 บาท/ราย 3.โครงการสนับสนุนเงินเพื่อช่วยเหลือ ฟื้นฟูอาชีพ โดยยึดโมเดลการช่วยเหลือ เหมือนน้ำท่วมภาคใต้ 4. มาตรการพักชำระหนี้ โดยรัฐบาลสนับสนุนเรื่องดอกเบี้ยแก่เกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย 3% ต่อปี และ5.มาตรการแจกเงินโดยการคำนวนจากต้นทุนของเกษตรกร จำนวนพื้นที่ที่เพาะปลูกแล้ว เบื้องต้น คำนวนค่ากลางจ่ายให้เป็นรายบุคคลจำนวน 10,000 บาท/ราย ซึ่งต้องใช้งบประมาณเบื้องต้นประมาณ 6,000-6,500 ล้านบาท มาตรการนี้เสนอโดยกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งพล.อ.ฉัตรชัยให้หน่วยงานต่างๆกลับไปคิดและนำมาเสนอใหม่ โดยเน้นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เกษตรกร ไม่ใช่การนำเงินไปจ่ายเพิ่มอีก เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้มีเงินมากพอที่จะแจกจ่ายเพิ่ม ซึ่ง 5 มาตรการที่เสนอครั้งนี้มีหลายมาตรการเป็นงานที่กระทรวงเกษตรทำอยู่แล้ว
