“ดิอาจิโอฯ” เผยเอกชนปรับสูตรเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดดีกรีลง รับภาษีใหม่เหล้า-เบียร์ มีผล 16 ก.ย.นี้

นายธนากร คุปตจิตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าสุราจากต่างประเทศ เช่น แบรนด์จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ สก็อตวิสกี้ ว้อดก้าสเมอร์นอฟ เป็นต้น เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2560 คาดว่าผู้ประกอบการจะทราบข้อมูลประกาศอัตราการจัดเก็บภาษีใหม่ที่จะเก็บจริงของสุราและบุหรี่ในวันเดียวกันหรือก่อนหนึ่งวันประกาศใช้ ส่วนจะปรับขึ้นราคาจำหน่ายสุราหรือไม่ต้องรอดูอัตราภาษีที่เก็บจริง และการบริหารจัดการของผู้ประกอบการแต่ละราย

นายธนากร กล่าวว่า ทั้งนี้บริษัทเห็นด้วยกับกฎหมายใหม่ที่จะเน้นเก็บตามมูลค่าสินค้าและปริมาณดีกรีแอลกอฮอล์ เพราะมีความชัดเจน ลดความเหลื่อมล้ำการจัดเก็บภาษี และสามารถควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีดีกรีสูงได้ “ยอมรับว่าบริษัทมีหลายแผนรองรับที่เตรียมไว้ หลัง พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ เป็นแผนทั้งการตลาด การขาย และการเงิน เตรียมไว้ทั้งในแง่อัตราภาษีสุราเท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นที่อาจจะเกิดขึ้น” นายธนากรกล่าวและว่า ขณะเดียวกันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายรายเริ่มปรับตัวตั้งแต่รู้ว่ามีการปฏิรูป พ.ร.บ.ฉบับนี้ ประกอบกับปรับตัวตามการแข่งขันในตลาด ด้วยการปรับสูตรเครื่องดื่มให้ดีกรีแอลกอฮอล์ลดลง หรือหันไปใช้นวัตกรรม เช่น ปรับปรุงแบรนด์ ปรับสูตร ออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รุ่นพิเศษมีจำนวนจำกัด

นายธนากร กล่าวว่า เบื้องต้นหลัง พ.ร.บ.นี้มีผล คาดว่าผู้ประกอบการและผู้บริโภคจะไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงนัก เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะทำตามพันธะสัญญาในการปฏิรูปภาษีสรรพสามิต ซึ่งมีสาระที่สำคัญระบุว่ามุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ มิใช่การเพิ่มภาษี รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค และต้องการเก็บภาษีให้ชัดเจน โปร่งใส เป็นธรรม เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยปี 2559 ภาษีจากสุราราว 6 หมื่นล้านบาท และภาษีจากเบียร์ราว 8.4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 4 นี้การแข่งขันทางตลาดจะรุนแรงเพราะเป็นช่วงเทศกาล คาดว่าตลาดรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปีนี้จะทรงตัวจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีปริมาณรวมราว 3.08 พันล้านลิตร ซึ่งแบ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้า 1.5% และผลิตในประเทศ 98.5%

นายธนากร กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เริ่มมีการปฏิรูปภาษีสุรา มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสุราตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ทำให้ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะส่วนนำเข้ามีการถดถอยโดยรวมกว่า 30% แต่การจัดเก็บภาษีจากสุราและเบียร์กลับเพิ่มขึ้น ตรงนี้ส่วนหนึ่งสะท้อนว่าการบริโภคยังเพิ่มขึ้น โดยผู้บริโภคหันไปหาราคาที่ถูกลง และมีการเทรดดาวน์ ซึ่งคือผู้บริโภคหันไปหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นแบรนด์ระดับเดียวกัน แต่เป็นสินค้าผิดกฎหมายที่มีราคาถูกกว่า ดังนั้น พ.ร.บ.ใหม่นี้ ที่มีสาระสำคัญเรื่องการปรับใบอนุญาตขายสุราเหลือเพียง 2 ประเภท คือขายปลีกและขายส่ง จากเดิมมี 7 ประเภท รวมทั้งมีการปรับเพดานอัตราค่าธรรมเนียมในอนุญาตขายสุรา ตลอดจนผลิตและนำเข้าเพิ่มขึ้น 10-25 เท่า และมีการปรับเพิ่มบทลงโทษสุราผิดกฎหมายนั้น บริษัทฯเชื่อมั่นว่า พ.ร.บ.นี้จะสร้างความเป็นธรรมให้แก่ภาคเอกชน ลดปัญหาสุราผิดกฎหมาย และลดปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นอันตรายได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image