เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม 2560 ที่ กก.5 บก.ปอศ. นางจารุวรรณ สิทธิโชติ อายุ 37 ปี พร้อมผู้เสียหาย รวม 14 ราย เข้าพบ พ.ต.อ.สมชาย จันทร์คง ผกก.กก.5 บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ณิชาภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ที่ชักชวนให้ร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท
นางจารุวรรณเปิดเผยว่า เคยทำงานที่ประเทศเกาหลี และกลับมาประกอบอาชีพค้าขายในประเทศไทย โดยรู้จักกับ น.ส.ณิชาภัทรจากเพื่อนแนะนำให้รู้จักผ่านทางเฟซบุ๊กที่ชักชวนให้ร่วมลงทุน อ้างนำเงินไปปล่อยกู้ต่อให้กับคนไทยในประเทศเกาหลี เห็นเพื่อนได้ดอกเบี้ยดี จึงเข้าไปในกลุ่มปิดเฟซบุ๊ก ชื่อกลุ่ม “รวมพลคนแบ่งปัน Byณิชาภัทร” มี น.ส.ณิชาภัทรเป็นผู้ดูแลและจ่ายเงินดอกเบี้ยจากการลงทุน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2559 จึงเริ่มลงทุนก่อนประมาณ 1 แสนบาท ได้ดอกเบี้ยคืนจริง 2-3 งวด จึงเพิ่มเงินทุนเข้าไปอีก รวมเป็นเงิน 6,500,000 บาท กระทั่ง 4-5 เดือนก่อนไม่ได้รับดอกเบี้ย เมื่อสอบถามไปก็ถูกบ่ายเบี่ยงตลอด กระทั่งสอบถามคนในกลุ่มก็รู้ว่าไม่ได้เงินค่าดอกเบี้ยเช่นกัน
นางจารุวรรณกล่าวต่อว่า วันนี้จึงรวมตัวผู้เสียหายบางส่วนมาแจ้งความให้ดำเนินคดี ทราบว่า น.ส.ณิชาภัทรมีบ้านพักอยู่ย่าน จ.นนทบุรี แต่ส่วนมากจะเดินทางไปประเทศเกาหลี เนื่องจากมีอาชีพนวดแผนไทย และสามีเป็นชาวเกาหลี ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่เคยทำงานในเกาหลีหรือคนไทยที่ยังอยู่ที่นั่น โดยการโอนเงินจะมีอยู่ในประเทศไทย จะโอนผ่าน น.ส.ณิชาภัทร แต่ถ้าอยู่ที่เกาหลี จะโอนผ่านสามี กลุ่มปิดดังกล่าวมีสมาชิก 913 คน เป็นคนไทยที่อยู่ทั้งประเทศไทยและประเทศเกาหลี แต่ที่ทราบมีผู้เสียหายแบบเดียวกัน ประมาณ 200 คน มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ส่วน 14 คนที่มาแจ้งความวันนี้เสียหายรวมกว่า 21 ล้านบาท เนื่องจากลงทุนตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท
ด้าน พ.ต.อ.สมชายเปิดเผยว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ก่อน โดยคดีไม่มีความซับซ้อน และจะทยอยเรียกผู้เสียหายเข้าสอบปากคำเพื่อให้ข้อมูล โดยพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.กู้ยืมเงิน หลังจากสอบปากคำและตรวจสอบหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมามอบให้เสร็จแล้วจะประสาน น.ส.ณิชาภัทรเข้าให้ปากคำ หากไม่มาจะออกหมายเรียกต่อไป
