ชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรม ปฏิบัติการรวบ 2 แก๊งเงินกู้นอกระบบ ขณะกำลังข่มขู่ทำร้ายลูกหนี้กลางตลาด

ชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร สนธิกำลังปฏิบัติการรวบแก๊งเงินกู้นอกระบบ ได้ 2 แก๊งผู้ต้องหา 4 คนของกลางรวม 39รายการ ขณะกำลังข่มขู่ทำร้ายลูกหนี้กลางตลาดตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม

วันที่ 18 สิงหาคม .2560 เวลา 09.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรว่า ขณะนี้แก๊งเงินกู้นอกระบบทวงหนี้ดอกเบี้ย โหดออกอาระวาดในพื้นที่จังหวัดพิจิตรแม้ ทางภาครัฐ มีมาตรการคุมเข้ม ในเรื่องของการจับกุม แต่ดูเหมือน ไม่เป็นผล แก๊งงินกู้ ก็ยัง ออกมา ปล่อยเงินกู้ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ล่าสุด มี พ่อค้าแม่ค้าจาก ตำบลหนองโสน ตำบลสามง่าม จังหวัดพิจิตร ได้เข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร โดยมี นายพิษณุ เสนาวิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานศูนย์ดำรงธรรมพิจิตร

ต่อมา พ.ต.ท.กฤติกร ปานผล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย พ.ท.ประชิต ศรีวงรักษ์ หัวหน้าฝ่ายยุทธการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิจิตร และนายบุญเลิศ ศิริษา ป้องกันจังหวัดพิจิตร ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง (อส.) ร่วมกับ กำลังทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิจิตรและ ได้วางแผนและติดตามสะกดรอยจู่โจมเข้าจับกุมแก๊งเงินกู้นอกระบบดังกล่าวได้ขณะกำลังเข้าไปข่มขู่ทวงหนี้ลูกหนี้บริเวณร้านค้าบริเวณตลาดตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ได้จำนวน 2 แก๊ง ผู้ต้องหา 4 คน

แก๊งแรกเป็นแก๊งทวงหนี้จากจังหวัดนครสวรรค์ คือ นายเอก แก้วกอง อายุ 29 ปี และ นายธนวัฒน์ สีคช อายุ 30 ปี แก๊งที่ 2 แก๊งทวงหนี้จากจังหวัดพิษณุโลก คือนายสมพร มุ่งสะกลาง อายุ 30 ปี และนายวีระพงษ์ ขาวผ่อง อายุ 27 ปี พร้อมด้วยของกลางทั้งหมดเช่นสมุดบัญชีลูกหนี้ เงินสด จำนวน 49,560บาท รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยตา รุ่นแคมรี่ หมายเลขทะเบียน วฮ-1836 กรุงเทพฯ และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมก หมายเลขทะเบียน 5 กฮ-3518 กรุงเทพฯ และของกลางอื่นๆรวม 39 รายการ

Advertisement

จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล ทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 4 คนเป็นแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบให้กับกลุ่มนายทุนรายใหญ่ในตัวเมืองจังหวัดนครสวรรค์ และแก๊งพิษณุโลก เมื่อลูกหนี้รายไดไม่มีจ่ายหรือผัดผ่อนติดค้างก็จะใช้วาจาข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย หรือทำลายสิ่งของภายในบ้านลูกหนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงบันทึกจับกุมในข้อหาทั้งหมด ในข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ พร้อมกับจะได้ขยายผลถึงกลุ่มนายทุนใหญ่เพื่อเอาผิดและใช้กฎหมายตาม พรบ.การฟอกเงิน เพื่อยึดทรัพย์กลุ่มนายทุนดังกล่าวต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image