จนมุมยกแก๊ง12คนร่วม’พล.ต.-พ.ต.ต.’อุ้มรีด ‘บิ๊กแป๊ะ’ตั้ง’พล.ต.อ.รุ่งโรจน์’หัวหน้าพงส. ประสานปปง.ฟันฟอกเงิน

ความคืบหน้าการจับกุมแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่นายสุรชัย แช่ย่าง ประธานคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด ประกอบธุรกิจสายการบิน มี พล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวน กก.5บก.ปอศ. นายโอภาส ศรียา นายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ นายอุทิศ หรือจ่ายักษ์ ก่อแก้ว นายฐิติกร หรือจ่าต้อย ชื่นอุรา ทหารกรมสารวัตรทหารเรือประจำกองทัพไทย ยศ จ.อ. 4 ราย โดย พล.ต.จรูญ และทหารกรมสารวัตรทหารเรือประจำกองทัพไทย ยศ จ.อ. 4 คน ได้ประกันชั้นพนักงานสอบสวน ขณะที่ พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ และนายโก๊ะ เต็ก ชวน ได้ประกันชั้นศาล ส่วนนายโอภาส นายอุทิศ และนายฐิติกร ไม่มีคนยื่นประกัน จึงถูกคุมตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ออกหมายจับนายพนม หรือหลิน นิรมิตร์ อายุ 46 ปี ชายหมวกสีเขียว ที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด และนายนวพล ท้าวคำหลง อายุ 50 ปี คนขับรถร่วมก่อเหตุ ฐานกรรโชกทรัพย์ บุกรุก และร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร รวมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 12 คน

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 สิงหาคม ที่ สน.โคกคราม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.กองบังคับการสายตรวจ พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม และตำรวจ บก.สปพ. ร่วมกันแถลงดำเนินคดีนายพนม ชายหมวกสีเขียว เข้ามอบตัวที่ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และจับกุมนายนวพล คนขับรถ ผู้ต้องหากรรโชกทรัพย์ บุกรุก และร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร โดยจับกุมได้ที่บ้านพักใน จ.อำนาจเจริญ

Advertisement

สอบสวนนายพนม รับว่าเป็นคนที่ใส่หมวกสีเขียวที่ปรากฏในภาพวงจรปิด มีอาชีพคุมวินรถแท็กซี่ย่านคลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี วันเกิดเหตุรับจ้างจากนายอุทิศ หรือจ่ายักษ์ ให้มาทำหน้าที่อารักขาบุคคลสำคัญ แต่ไม่ทราบรายละเอียด หลังเสร็จงานได้รับค่าจ้าง 2,000 บาทก่อนแยกย้าย หลังทราบข่าวว่าถูกออกหมายจับจึงเข้ามอบตัวที่ สภ.ธัญบุรี

ด้านนายนวพล รับว่าทำหน้าที่เพียงขับรถให้กับจ่ายักษ์ วันเกิดเหตุไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากตลอดเวลาอยู่บนรถ โดยจ่ายักษ์บอกให้ขับรถไปตามที่ต่างๆ หลังเสร็จงานได้ค่าจ้าง 10,000 บาท จากนั้นได้เดินทางไป จ.อำนาจเจริญ เพื่อซื้อขายที่ดินที่รับเป็นนายหน้า ไม่ได้ตั้งใจจะหนี เพียงต้องการเงินที่ได้จากการเป็นนายหน้ามาใช้จ่าย แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มีคำสั่งแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานสอบสวน โดยมี พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และจะมีรอง ผบช.น. ผบก.สปพ. รอง ผบก.ทท. และพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เป็นคณะทำงาน จะทำให้คดีกระชับ รัดกุม ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย การจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้ง 12 คนถือว่ามีความสมบูรณ์ ใช้เวลาเพียง 6 วันในการติดตามจับกุมคนร้าย ทางผู้บังคับบัญชากำชับไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกและให้คดีเป็นคดีสุดท้าย

Advertisement

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์หน้า พล.ต.อ.รุ่งโรจน์จะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เพื่อสรุปคดีและประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินเส้นทางการเงินว่าเข้าข่ายฟอกเงินหรือไม่ เบื้องต้นจะยึดเงิน 2 ล้านบาทที่ได้มาจากการกรรโชกทรัพย์ไว้ก่อน ในส่วนของผู้เสียหายในคดีนี้พบว่ามีเพียง 3 ราย มีบุคคลบางคนในแก๊งก่อเหตุ 2 ราย เป็นของพื้นที่ สน.ห้วยขวาง และ สน.วังทองหลาง หลังจากนี้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาที่ประกันตัวไปก่อนหน้านี้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา อั้งยี่ ซ่องโจร เพิ่มอีก 1 ข้อหา หากไม่มาตามหมายเรียก 2 ครั้งจะออกหมายจับต่อไป ส่วนของการแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งหมดมีด้วยกัน 3 ข้อหา กรรโชกทรัพย์ บุกรุกเคหสถาน และอั้งยี่ ซ่องโจร

รายงานข่าวแจ้งว่า การจับกุมตัวนายนวพลนั้น จากการสืบสวนพบว่าระหว่างนายนวพลหลบหนีมีการเปลี่ยนรถ รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์หลายครั้ง เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามข้อมูลจนจับกุมตัวได้ในที่สุด

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image