ยิ้มไม่ออก! หนุ่มโพสต์ถาม ‘ตรวจเยอะทำไมของยังหาย’ หลังถูกขโมยสูญเป็นหมื่นจากสายการบินดัง

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอุทาหรณ์ของนักเดินทางไทย เมื่อเพจท่องเที่ยว THE SNAP THAILAND ออกมาโพสต์แชร์ข้อความเตือนใจ เมื่อถูกขโมยของฝากอย่างนาฬิกาจากกระเป๋าเดินทางจำนวน 8 เรือน จากเที่ยวบินนาริตะ กรุงเทพฯ ภูเก็ต โดยสายการบินชื่อดัง จนออกมาถามคำถาม 8 ข้อถึงขั้นตอนการทำงาน จนมีชาวเน็ตแชร์ไปไม่น้อย มีข้อความว่า

“แชร์ประสบการณ์
#แชร์แปะไว้เตือนภัยสังคม
ตอนที่ 1
วันที่ 15 สิงหาคม 2560
ใครจะไปรู้สายการบินที่ดีที่สุดในประเทศไทย มีขโมยที่แฝงตัวอยู่
ก่อนอื่น เราเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2560
เดินทางด้วยสายการบิน….เดินทางกัน 2 ท่าน ทั้งไปและกลับ
เส้นทางคือ
ขาไป ภูเก็ต-สุวรรณภูมิ-นาริตะ
ขากลับ นาริตะ-สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต (โดนขโมยขากลับ)

เรารับกระเป๋าปลายทางทั้งไปและกลับ ขาไปไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีแต่เสื้อผ้า ส่วนตอนกลับมาจากญี่ปุ่น เส้นทางนาริตะ-สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต ทางสายการบินก็ถามว่าต้องการให้กระเป๋า Direct ถึงภูเก็ตเลยไหม เราก็ตอบว่าใช่ เพราะขากลับกระเป๋าหนักมากทั้ง 2 ใบ แบ่งเป็นของใช้และเสื้อผ้า 1 ใบ อีก 1 ใบคือของฝากและของที่ระลึกที่ไปซื้อมาจากญี่ปุ่น

***หลายคนบอกว่า โง่เอง ใครเค้าเอาของมีค่าไว้ในเครื่องกัน อันนี้ยอมรับว่าโง่เอง ที่ไว้ใจ และเชื่อใจในคุณภาพ แต่จริงๆ แล้วจะอธิบายให้ฟัง คือเราตั้งใจจะเดินทางไปญี่ปุ่นกัน 3 คน คือ 2 ผู้ใหญ่ 1 เด็กเล็ก (6 เดือน) แต่ต้องยกเลิกเที่ยวบินของลูกและเลื่อนวันเดินทางออกไป จากเดิมเดินทางวันที่ 5 สิงหาคม แต่มีข่าวว่ามีพายุไต้ฝุ่นโนรูเข้าญี่ปุ่น เลยเปลี่ยนวันเดินทางเป็นวันที่ 10 สิงหาคม คราวนี้ไปกัน 2 คน ประเด็นคือแฟนต้องปั๊มนมออกทุกๆ 4-5 ชั่วโมง เพราะยังให้นมลูกอยู่ ในกระเป๋าของแฟนก็เลยเต็มไปด้วยอุปกรณ์ปั๊มนมลูก 90% ที่เหลือคือของมีค่าต่างๆ กระเป๋าสตางค์ passport แบตสำรอง แล้วก็พวกของใช้เล็กๆ ส่วนของผม ผมชอบถ่ายรูปแล้วมาลงในเพจส่วนตัวเพจนี้แหละ ก็เอาไปแค่กระเป๋าสะพาย 1 ใบโตๆ หลักๆ ก็กล้องถ่ายรูป เลนส์ โน้ตบุ๊ก ทำให้ไม่สามารถเอาของอะไรใส่ไปได้มากนัก ของต่างๆ ของที่ซื้อไปใช้ ซื้อไปฝากคนที่บ้านก็จะอยู่ในกระเป๋าเดินทางทั้งหมด
ส่วนกระเป๋าเดินทาง ก่อนออกจากที่พัก ผมเป็นคนปิดเอง จำได้ว่าล็อกรหัสแล้วก็หมุนเพื่อให้รหัสมันสลับกัน จากนั้นก็ส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ของสายการบินในสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น
เราเดินทางกลับด้วยเครื่องบินลำโต มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย ไม่อยากพูดถึงเรื่องการบริการนะ เดี๋ยวจะยาวไปกว่านี้
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก็จอดเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง รอประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 3 ชั่วโมง แล้วก็ออกเดินทางต่อ ไปสนามบินภูเก็ต แต่กว่าจะออก รู้สึกว่าน่าจะออกสายกว่าที่ทางสายการบินแจ้งไว้ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นกี่โมง เพราะเพลียกันมาก พอขึ้นนั่งก็หลับกันทั้งคู่เลย
พอมาถึงสนามบินภูเก็ต ก็ลงในอาคารใหม่ของสนามบินภูเก็ต ก็รอประมาณ 45 นาทีได้มั้ง กระเป๋าก็ออกมาจากสายพาน ด้วยความที่คนเยอะ เพลียมาก บวกกับง่วงที่เดินทางตั้งแต่เช้า ก็ไม่ได้เช็กกระเป๋า หรือเอะใจอะไร เพราะทุกอย่างดูปกติดี หลังจากนั้นก็มาถึงบ้าน เปิดกระเป๋าจะหานาฬิกาที่ซื้อมาฝากน้อง ก็เห็นสภาพในกระเป๋ามันรกจัง ก็เลยเปิดกางออกกลางบ้านเลย พอหาดูก็ไม่เจอนาฬิกาที่ซื้อมาฝากน้องๆ ในใจภาวนาว่า อย่าขโมยนาฬิกาที่ซื้อมาฝากพ่อกับพี่สาวนะ เพราะราคาค่อนข้างแพงอยู่ และเสียเวลาในการเลือกนานมาก สรุป หายหมดเลย เหลือแต่กล่องใส่นาฬิกา
เท่าที่จำได้คือ ซื้อนาฬิกามาประมาณ 12 เรือน
เหลือ 4 เรือน หายไป 8 เรือน
ส่วนของแฟนก็จะเป็นเครื่องสำอาง หลายชิ้นมาก
รวมมูลค่าแล้วก็ 25 K++ บาทไทย
เหมือนมันรู้ เลือกขโมยเฉพาะของแพงๆ ไป เหลือไว้แต่พวกขนม ของฝากเล็กๆ
หลังจากนั้นก็ให้แฟนปรึกษากับพี่สาว พี่สาวเลยให้โทรไปสอบถามที่สายการบิน ระหว่างนั้นผมก็หาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับผู้เสียหายที่โดนขโมยของในสนามบิน สรุปเจอเยอะมากกกก และโอกาสได้ของคืนหรือให้สายการบินรับผิดชอบ มีโอกาสไม่ถึง 5% ตัวเลขน่ากลัวเนอะ
หลังจากนั้นแฟนก็ให้คุยกับเจ้าหน้าที่สายการบินสนามบินภูเก็ต
เค้าบอกให้ส่งอีเมลและรายละเอียดต่างๆ ไปเพื่อแจ้งความเสียหาย และถ้าเราอยากรู้อะไรก็ให้ถามไปที่นั้นเลย
หลังจากนั้นผมก็ส่งไปที่อีเมลนั้น ส่งรายละเอียดทุกอย่างที่จะต้องส่งไป
เช่น
BOARDING PASS
ชื่อผู้เดินทาง
รายการของที่หาย
บิลซื้อของต่างๆ
และมูลค่าของที่ถูกขโมย
หลังจากนั้นก็กดส่งไป คราวนี้ก็ได้แต่รอเค้าตอบกลับมาครับ
แต่พอเข้าไปเช็กในอีเมลดูว่าส่งได้ไหม มันส่งข้อความกลับมาว่า
“กล่องจดหมายของผู้รับเต็ม
ไม่สามารถส่งข้อความของคุณไปยังกล่องจดหมายของผู้รับอาจเต็มหรือได้รับอีเมลจำนวนมากเกินไปในขณะนี้”
ฮ่าๆ –” #ทำไมถึงขำ เนี้ยยย
และมันบอกว่า มันจะส่งต่อไปยังที่ไหนซักที่นึงนี้แหละ
คราวนี้ก็ได้แต่รอคำตอบ ที่จะตอบกลับมาว่าจะเอายังไง
________________________________________________

Advertisement

8 สิ่งที่ผมอยากรู้ และผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย อยากให้ผู้รู้ช่วยตอบหน่อย คือ
1 / ขั้นตอนการขนย้ายกระเป๋าจากเครื่องบิน ผมเห็นมันใส่ในกล่องเหล็กนี่ แล้วมันจะเอาออกมาได้ยังไง?
2 /แล้วตอนย้ายออกจากเครื่องบินไปยังเครื่องบินอีกลำ มันต้องเปลี่ยนไอ้กล่องเหล็กนั้นไหม ใครสามารถเปิดกล่องนั้นได้บ้าง?
3 /แล้วคนที่สามารถเข้าไป หรือขนย้าย มันไม่ใช่พนักงานของสายการบินนั้นๆ หรือ?
4 /มีคนบอกว่า ไม่ใช่ความผิดของสายการบิน แต่เป็นพวก Outsource !
5 /แล้วตกลง Outsource ใครเป็นคนจ้างมา และอยากรู้คำจำกัดความของคำว่า Outsource เพราะเท่าที่หาข้อมูล มันก็บอกว่า คือพนักงานชั่วคราว (Outsource) ที่ไปประจำบริษัทต่างๆ นั่นเอง เป็นระยะเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น โดยจะไม่มีการทำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นเมื่อสิ้นสุดระยะการทำงาน
อันนี้คือที่ไปหาข้อมูลมา
6 /แล้วถ้ามันเป็น Outsource จริง ทำไมคุณถึงให้คนที่เรียกตัวเองว่า Outsource มามีบทบาทและมาหยิบมาจับ หรือมาขโมยของมีค่าและของสำคัญของลูกค้าที่ซื้อตั๋วเดินทางไปกับคุณได้ เค้ามั่นใจในตัวคุณมาก แต่คุณมาบอกว่า Outsource เป็นคนผิด?
7 /ทำไมเวลาที่เราจะเข้าสนามบินนี้สแกนแล้วสแกนอีก สแกนจนอยากจะเป็นผู้ก่อการร้ายไปเลย แต่เข้าใจนะ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง แต่ในทางกลับกับ อยากรู้ว่ามีการสแกนพนักงาน หรือพวก Outsource พวกนี้ไหม ว่ามีวัตถุต้องสงสัย หรือของที่ไม่ได้นำเข้าไป
ยกตัวอย่าง ตอนเข้าไป ใส่นาฬิกา 1 เรือน ตอนออกมา มีนาฬิกาในกระเป๋าอีก 8 เรือน อยากรู้ว่ามีคนสแกนพวกนี้ไหม
8 /อยากรู้จริงๆ ว่า นอกจากผมแล้ว ยังมีใครโดนกันอีกบ้าง ออกมาแชร์หน่อย

______________________________________________
ที่ออกมาโพสต์แบบนี้ไม่ได้ต้องการที่จะให้สายการบินนั้นเสียหาย หรือเหมารวมว่าสายการบินนั้นไม่ดีไปทุกคน ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ต้องการหาตัว*** พวกนั้น คนดี และบริการดี ก็ยังมีอยู่ แต่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ทราบ จะได้ระมัดระวังในการเดินทางเพิ่มขึ้น
อยากจะออกมาโพสต์ เพราะคิดว่าคงไม่ใช่โดนแค่เราคนเดียวแน่ เพราะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยกันมีเป็นร้อยๆ คน มีทั้งนักท่องเที่ยวไทยด้วยกันและนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล้วถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติล่ะ ถามหน่อยว่าอายไหม ที่เค้ามาด่ามาว่าคนไทยขี้ขโมยเนี่ย เสียชื่อสายการบินไม่พอ เสียเชื่อประเทศไทยไหม ถ้ายังมีพวก*** พวกนี้อีก ลองคิดดู มาเมืองไทยวันแรก โดนขโมยของในกระเป๋า เค้าคงจะไม่ smile เหมือนสโลแกนของเรา land of smile หรอก
และฝากถึงพวก***ด้วย เดี๋ยวนี้พวกโง่ที่มันโดนขโมยแล้วเงียบไม่ค่อยมีแล้ว คนไทยเริ่มฉลาดกันแล้ว โซเชียลมันเร็วและแรงมาก
หยุดเหอะ เพื่อคนที่คุณรัก
#ของหายไม่เสียดายนะ #แต่เสียความรู้สึก
#สงสารนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในประเทศไทย”

โดยล่าสุด ผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ความคืบหน้าลงในเพจว่าสายการบินดังกล่าวได้ติดต่อเข้ามาแล้ว อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของสถานที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแอดมินเพจดังกล่าวก็เน้นย้ำว่า แค่ขอคำอธิบาย ไม่อยากให้ปัดความรับผิดชอบ โยนความผิดไปมา และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ของคนเดินทางต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image