เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 18 สิงหาคม นางมะลิ ศรีพรม อายุ 50 ปี เจ้าของร้านตำกล้วย ถนนวิทยธำรงค์ เทศบาลเมืองยโสธร เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่ามีชายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาปล่อยเงินกู้แล้วแล้วหลอกลวงเงินไปจำนวน 4 คนๆละ 500 บาท
นางมะลิ เปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 16.30 น.มีผู้ชายอายุประมาณ 40 ปีผิวสีดำแดง แต่งตัวภูมิฐาน พูดคล้ายสำเนียงโคราช ขับรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่ทราบยี่ห้อมานั่งสั่งอาหารอยู่ร้านข้างๆ ซึ่งพวกตนกำลังพูดเรื่องไม่ถูกหวยออก ไม่มีเงินชื้อของมาขาย สั่งพักชายคนดังกล่าวจึงเรียกพวกตนรวม 4 คน ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มมานั่งพร้อมพูดว่าตนปล่อยเงินกู้และเป็นตำรวจที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีนายที่เป็นทหารและตำรวจเป็นคนปล่อยเงินกู้ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ตนเป็นเพียงคนหาลูกค้าให้นาย
ต่อมาชายคนดังกล่าวพูดอีกว่าพวกตนสามารถกู้เงินได้คนละ 10,000 บาท โดยไม่ต้องมีเอกสารหรือคนค้ำประกัน ให้นำเพียงสำเนาบัตรประชาชนมาให้ และเงินอีก 500 เพื่อดำเนินการ โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 บาทต่ออาทิตย์ ซึ่งตนได้ถามกลับไปว่าทำไมไม่หักในเงินจำนวน 10,000 บาทเลย ชายคนดังกล่าวเลยพูดว่าต้องนำเงินสดมาให้ 500 บาทเพื่อให้ค้ำประกัน สักพักพวกตนทั้ง 4 คนจึงนำเงินให้ชายคนดังกล่าวคนละ 500 บาท รวมเป็น 2,000 บาท พร้อมกับเซ็นสำเนาบัตรประชาชนให้ชายคนดังกล่าวเพื่อไปดำเนินการ
นางมะลิ เผยต่อว่าเมื่อชายคนดังกล่าวได้เงินและสำเนาบัตรไปแล้ว ได้บอกกับพวกตนว่าจะนำเอกสารทั้งหมดไปส่งแฟกซ์ให้นายเพื่อทำสัญญาแล้วจะไปกดเงินให้เลยคนละ 10,000 บาท พร้อมกับมีน้องผู้ชายที่ขายกล้วยขึ้นรถจักรยานยนต์ไปพร้อมกับชายคนดังกล่าว ต่อมาชายคนดังกล่าวได้พาน้องผู้ชายไปที่ร้านนวดแผนโบราณ ที่อยู่ในบริเวณวัดทุ่งสว่างชัยภูมิ อ.เมืองยโสธร เพื่อรับเงินกู้กับเพื่อนที่นวดอยู่ข้างใน พอน้องผู้ชายเข้าไปข้างในไม่พบใครมีเพียงพนักงานนวดเท่านั้น จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกตนรู้ว่าถูกหลอกแน่นอน ตนและผู้เสียหายอีกหนึ่งคนจึงพากันไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้จับกุมชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดี เนื่องจากไม่อยากให้ไปหลอกลวงใครเหมือนพวกตน นอกจากนี้ยังมีคนที่ถูกหลอกได้ถ่ายคลิปวีดิโอชายคนดังกล่าวไว้ได้จึงนำไปมอบเป็นหลักฐานในเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
