สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ว่า ตำรวจฟิลิปปินส์ออกปฏิบัติการทำสงครามยาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อเนื่องในกรุงมะนิลา เป็นคืนที่ 3 และสังหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกอย่างน้อย 13 ราย ทำให้จำนวนผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญรวม 3 วัน อยู่ที่ 80 รายแล้ว ตามนโยบายทำสงครามกับยาเสพติดของประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต
ข่าวระบุว่า เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานเจ้าหน้าที่วิสามัญผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในกรุงมะนิลา และจังหวัดใกล้เคียงรวมทั้งสิ้น 67 ราย และจับกุมตัวได้อีกว่า 200 คน ในปฏิบัติการที่ตำรวจระบุว่าเป็น “วันไทม์ บิ๊กไทม์” เพื่อลดปัญหายาเสพติดและการก่ออาชญากรรมบนท้องถนน
ทั้งนี้ ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่จะมีขึ้นตามสลัมหรือตามย่านผู้มีรายได้น้อย โดยนางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับดูแตร์เต ได้ออกมาประณามการสังหารผู้คนตามนโยบายสงครามยาเสพติดครั้งล่าสุด โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม
ขณะที่ทีมนักข่าวของรอยเตอร์ได้ลงพื้นที่แหล่งชุมชน 5 แห่งในกรุงมะนิลา เมื่อคืนวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ถูกยิงตาย 4 ราย จากปฏิบัติการล่อซื้อยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตำรวจได้ห้ามนักข่าวเข้าไปภายในพื้นที่ย่านคาลูกันที่มีปฏิบัติการอยู่ แต่นักข่าวเห็นว่ามีนำถุงใส่ศพออกจากพื้นที่ไป 3 ถุงด้วยกัน
