มีความจำเป็นที่ “สื่อ” ต้องให้ความสนใจต่อการเคลื่อนไหวของ น. ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นพิเศษ
ปัจจัย 1 คือ วันที่ 25 สิงหาคม
ปัจจัย 1 คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1 ในคดีโครงการรับจำนำข้าว
ปัจจัย 1 คือ “ความตื่นตัว”
ความรู้สึกของสังคม เมื่อเผชิญกับคดีที่ไม่เพียงแต่อาจต้องติดคุก หากแต่อาจต้องถูกอายัดและยึดทรัพย์เป็นจำนวนมากถึง 3.5 หมื่นล้านบาท
เป็นใครก็ต้องกลัดกลุ้มเหมือน”มด” บน”กะทะ”ร้อน
แต่ภาพอันปรากฏต่อ “สาธารณะ” คนที่ร้อนรุ่ม กลัดกลุ้มกลับมิใช่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นับแต่หลังวันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นิ่งอยู่ในความสงบ
ด้านหลัก อาจสงบอยู่ที่บ้านซอยโยธินพัฒนา 3
ขณะเดียวกัน ด้านรองอาจเดินทางไปเชียงใหม่ และเดินทางไปบางแห่งในกทม.
1 เป็นวัด 1 เป็นตลาดเพื่อจับจ่ายซื้อข้าวของ
การไปวัดก็เพื่อกราบไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรให้แคล้วคลาดปราศจากภยันตราย
นี่เป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่งสำหรับ”พุทธศาสนิก”
ขณะเดียวกัน พระเมื่อมีใครบากหน้ามาก็ต้องอวยชัยให้พรไปตามธรรมเนียม บางรูปอาจให้พระเครื่องเพื่อไปบูชาประจำกายประจำใจ
เท่ากับเป็นการปลอบประโลมในยามยาก
เบื้องหน้าความนิ่ง ความสงบ เปี่ยมด้วยสุขุม คัมภีรภาพของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายก็สำคัญ
เป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะ 3 ประสาน พลเรือน ตำรวจ และทหาร ภายใต้โครงสร้าง “พ.ต.ท.”ในยุคแห่งการปราบปราม”คอมมิวนิสต์”
เป้าหมาย คือ สกัดกั้น”มวลชน”มิให้เดินทางเข้า”กทม.”
เท่ากับการให้”กำลังใจ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังกลายเป็นปัญหาที่ต้อง”ป้องปราม”
