นายกฯ เตรียมประชุม ครม.สัญจร โคราช มุ่งเน้นเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิน โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ที่จ.นครราชสีมา ในระหว่างวันที่ 21 – 22 สิงหาคมนี้ว่า จ.นครราชสีมาเป็นประตูสู่ภาคอีสาน และเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานตอนล่าง รัฐบาล จึงได้เลือกเดินทางไปยังพื้นที่นี้ก่อนเป็นอันดับแรก โดยภาคอีสานนี้ ถือเป็นภูมิภาคสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศ เพราะมีพื้นที่เพาะปลูกที่กว้างขวาง เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีเส้นทางการคมนาคมที่พร้อม มีประวัติศาสตร์ขนบธรรมเนียมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีธรรมชาติที่สวยงาม ผู้คนเป็นมิตร เข้มแข็ง อดทน หนักเอาเบาสู้ และมีฝีมือ โดยนายกฯ พร้อมฟังความเห็นและฟังเสียงสะท้อนของประชาชน

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า เป้าหมายของการพัฒนาภาคอีสานของรัฐบาลนี้ คือ การสร้างมิติใหม่ให้ภาคอีสานเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยนำปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่เข้าสู่กระบวนการแก้ไข และต่อยอดไปสู่สิ่งใหม่ ประกอบด้วย การบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนอีสาน การแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย การแก้ปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี การพัฒนาเกษตรอินทรีย์และอาหารปลอดภัย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิคุณภาพสูง การพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการพัฒนาสินค้า โอทอป วิสาหกิจชุมชน

“สำหรับ จ.นครราชสีมา จะมุ่งเน้นให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในด้านอุตสาหกรรม การเกษตร การท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน และพลังงานสะอาด ผ่านโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไทย – จีน) กทม.–นครราชสีมา มอเตอร์เวย์ กทม. – นครราชสีมา โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน การยกระดับสินค้าผ้าไหมและผ้าย้อมคราม ส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชั่น การเพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำบึงกระโดนและลำเชียงไกร (ตอนล่าง) การลงทุนค้าขายเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC และ กทม. เป็นต้น นอกจากนี้ นายกฯ เน้นย้ำว่า การสร้างอนาคตที่ดีของประชาชน และความเจริญก้าวหน้าของประเทศโดยเฉพาะภาคอีสานนั้น ขึ้นอยู่กับความร่วมมือร่วมใจของทุกคน รัฐบาลกำหนดให้มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และการปฏิรูปประเทศจะเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรมใน 5 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้เรากำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งที่จะได้มาซึ่งรัฐบาลที่โปร่งใส ยึดผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ดังนั้น หากคนไทยมีความปรองดองและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศร่วมกัน ก็เชื่อว่าจะไปสู่เป้าหมายได้โดยไม่ยากนัก” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image