เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ จ.สุพรรณบุรี นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเตรียมตั้งกรรมการปฏิรูป 11 ด้านเพิ่มเติมจนครบพร้อมเชื้อเชิญนักการเมืองเข้าร่วมโดยบอกว่าเก้าอี้ยังว่างอีกมาก ว่า คิดว่าสำหรับนักการเมือง คงไม่มีใครอยากเข้าไปร่วม เพราะมองเห็นอนาคตแล้วว่า โอกาสที่จะประสบความสำเร็จค่อนข้างยาก เพราะอย่าลืมว่าคณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 11 ด้านนั้นมีพื้นฐานมาจากสปท. ซึ่งตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมานั้นไม่มีอะไรที่จะเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็นถึงแสงสว่าง ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านนั้นมองไม่เห็น ซึ่งคงไม่มีใครยอมที่จะเสี่ยง เข้าไปเป็นกรรมการด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่ออกมาแสดงข้อคิดเห็นนั้นไม่ใช่ว่านักการเมืองกระสันอยากไปเป็น แต่พูดโดยคิดถึงหลักการของการปฏิรูปประเทศควรเปิดโอกาสอย่างกว้างขวางให้กับบุคคลหลากหลาย ให้คนใน 11 กลุ่มนั้นได้มีตัวแทนของพวกเขาเข้ามา ทำหน้าที และกระบวนการซึ่งได้มานั้นอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่เมื่อทำโดยวิธีการเช่นนี้ก็คงยากที่จะสำเร็จ อย่างที่มีคนมองว่าเรื่องนี้อาจเป็นสายล่อฟ้าที่ดีให้เกิดความขัดแย้งหลังการเลือกตั้ง งั้นก็มองได้เพราะอย่าลืมว่าหลังการเลือกตั้งที่จะออกมาแนวทางการบริหารแผ่นดินของรัฐบาลชุดที่เรายังไม่รู้ว่าจะเป็นใคร หากแนวทางของรัฐบาลใหม่สวนทางกับคณะกรรมการปฏิรูป ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้วอันไหนจะมีน้ำหนักไปสู่การปฏิบัติขับเคลื่อนของประเทศได้จริง จึงน่าเป็นห่วงว่าจะทำอย่างไรต่อปัญหาดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับรายชื่อที่จะออกมาเพิ่มเติมให้ครบทั้ง 11 ด้านนั้นตนก็ไม่อยากคาดหวังใดๆ เพราะถ้ายังคิดอยู่ตามกรอบแนวคิดเดิมนั้นก็ไม่น่าคาดหวัง สิ่งที่อยากจะบอกรัฐบาลคือคณะกรรมการแต่ละชุดนั้นควรจะมองถึงแนวทางการปฏิรูปแท้จริง อย่ามองถึงตัวบุคคลหรือตำแหน่งบุคคลที่เอามา เช่นกรรมการปฏิรูปด้านการเมืองเมื่อดูรายชื่อแล้วคงเห็นว่าเป็นอย่างไร หรือกรรมการปฏิรูปบริหารราชการแผ่นดินก็ล้วนแต่เป็นอดีตข้าราชการ อย่างนี้ทำให้คิดว่างานบริหารราชการที่ผ่านมา จากองค์กรเดิมจะถูกครอบโดยวัฒนธรรม เดิมๆโอกาสที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงคงยาก “ยุคนี้เป็นยุคดิจิตอล แล้วไปเอาคนยุคอนาลอค มาปฏิรูปในยุคดิจิตอล แล้วจะไปได้หรือไม่ตรงนี้เป็นจุดที่มองเห็นได้ง่ายๆ แต่ละชุดติดตั้งมาเราไม่ได้ติเรือทั้งโกลน แต่จากที่ไม่มีความผูกพันยึดโยงกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนแล้วแต่ละคนที่เข้ามาต้องบอกได้คำเดียวว่ามันวังเวง”
