แท้จริงแล้ว ไม่ว่าการเคลื่อนของ 1 คสช. 1 ตำรวจ 1 มหาดไทย ใน “กรณี 25 สิงหาคม”
ล้วนถอด “พิมพ์เขียว” มาจาก “ประชามติ”
ลองย้อนกลับไปดู “เทป” ม้วนเก่าจากสถานการณ์ก่อนวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ก็จะเข้าใจ
เข้าใจว่าทำไมต้องส่ง “กำลังพล”ออกไป
เข้าใจว่าทำไมต้องมี “7 มาตรการ” ส่งตรงจากสำนักงานปลัด กระทรวงมหาดไทย
เข้าใจว่าทำไมต้องมี “แผนกรกฎ 52”
เพราะประเมินว่ายุทธการเมื่อ 1 ปีก่อนทำให้”ประชามติ”ผ่านฉลุย เมื่อมาถึง”กรณี 25 สิงหาคม”จึงต้องงัดมาใช้
โดยมองข้าม”จุดต่าง”ในทาง”เนื้อหา”
ปัจจัยสำคัญเป็นอย่างมากอันทำให้ประชามติ”ร่างรัฐธรรมนูญ”เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ประสบชัยชนะ
ด้วยคะแนนมากถึง 16 ล้าน
เพราะพรรคการเมือง “ส่วนใหญ่” หรือแม้กระทั่งภายในพรรค เพื่อไทยเองต้องการให้มี “การเลือกตั้ง”
ทุกฝ่ายล้วนคิดว่า “การเลือกตั้ง” คือ “ประตู”
กระนั้น ก็ยังปรากฏคะแนนเสียงที่ไม่เห็นด้วยกับ”ร่างรัฐธรรม นูญ” เป็นจำนวนมากถึง 10 ล้าน
ความเป็นจริงก็คือ พรรคเพื่อไทยปล่อย”เสรี”
แต่ในสถานการณ์ “25 สิงหาคม” เป้าหมายของ “มวลชน”มิได้เป็นปัจจัยชี้ขาดในเรื่อง “คำพิพากษา” เพราะนั่นเป็นเรื่องของศาล
หากแต่ “เป้าหมาย” อยู่ที่ “กำลังใจ”
ปริมาณของ”มวลชน”ไม่สามารถแปรเปลี่ยน “คำพิพากษา”ของศาลได้อย่างแน่นอน
แต่มีผลในทาง “การเมือง” อย่างลึกซึ้ง
เพราะหมายถึงคะแนนสงสาร คะแนนความเห็นใจต่อชะตา กรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนั่นชี้ทิศทางและแนวโน้มของ “พรรคเพื่อไทย”
ภายในพรรคเพื่อไทย ภายในนปช.คนเสื้อแดง รู้เป็นอย่างดีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกตัดสิทธิ “เว้นวรรค”ทางการเมือง
พลานุภาพจึงอยู่ที่”บารมี”มากกว่า
